Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับทักษะผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็น เกี่ยวกับทักษะผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ จำแนกตามประสบการณ์การทำงานและระดับชั้นที่จัดการศึกษาของโรงเรียน และ 3) เพื่อศึกษาแนวทาง
การพัฒนาทักษะผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21การวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1ศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับทักษะผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21กลุ่มตัวอย่างเป็นครูจำนวน 265 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นเครื่องมือที่ใช้ได้แก่แบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่น .985สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์
ความแปรปรวนทางเดียว และทดสอบรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ ระยะที่ 2 สัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 คน เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาทักษะผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนเอกชนจังหวัดบุรีรัมย์ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบสัมภาษณ์
แบบกึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1.ทักษะผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์
โดยรวมอยู่ในระดับมาก
2.ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับทักษะผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนเอกชนจังหวัดบุรีรัมย์ จำแนกตามประสบการณ์การทำงาน โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน ผลการเปรียบเทียบจำแนกตามระดับชั้นที่จัดการศึกษาของโรงเรียนพบว่า
ครูที่ทำงานในโรงเรียนที่จัดระดับการศึกษาแตกต่างกันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับทักษะผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ โดยรวมไม่แตกต่างกัน
4.ความคิดเห็นจากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาทักษะผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนเอกชน มีดังนี้ 1) ทักษะด้านวิสัยทัศน์ ควรสร้างความเข้าใจในวิสัยทัศน์ พันธกิจและ เป้าหมายของโรงเรียนให้แก่ครู บุคลากรให้มีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน 2) ด้านการพัฒนาสภาพการเรียนการสอน ควรวางแผน กำหนดระเบียบ และ แนวปฏิบัติ พร้อมทั้งจัดทำสารสนเทศที่เกี่ยวข้องรองรับการดูแลอาคารและสถานที่ 3) ทักษะ
ด้านการพัฒนาโครงสร้างองค์กร ควรสร้างแรงบันดาลใจ ให้เกิดกับบุคลากร สร้างวัฒนธรรม
การเป็นเจ้าของโรงเรียนร่วมกัน สามารถผลัดเป็นผู้นำในกิจกรรมหรือการดำเนินงานของโรงเรียนได้ 4) ทักษะด้านการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน ควรมีบทบาทในการสร้างความเข้าใจต่อบุคลากร ผู้ปกครอง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือจัดกิจกรรมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
5) ทักษะด้านการวางแผนพัฒนาคุณภาพครู ควรวางแผนพัฒนาครูผ่านทางผู้รับผิดชอบด้านวิชาการ จัดสรรงบประมาณ ตามแผนปฏิบัติการที่ได้วางไว้ ตามลำดับความสำคัญเพื่อสร้างแรงจูงใจ ตลอดจนจัดทำคู่มือสร้างความบุคลากรตามตำแหน่งงานและเส้นทางความก้าวหน้าหรือการเติบโตโดยมีหลักเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน และ6) ทักษะด้านการสร้างความสัมพันธ์ชุมชน ควรสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนโดย การส่งบุคลากรหรือนักเรียนมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของชุมชน
ในโอกาสต่างๆ