Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาสภาพการส่งเสริมการรักษาวินัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 2)เปรียบเทียบความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับสภาพการส่งเสริมการรักษาวินัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32จำแนกตามประสบการณ์ในการทำงานและขนาดของสถานศึกษาและ 3) แนวทางการส่งเสริมการรักษาวินัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32การวิจัยครั้งนี้ดำเนินการเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับสภาพการส่งเสริมการรักษาวินัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ใช้กลุ่มตัวอย่างครูจำนวน 354คน ได้มาจากการสุ่มแบบชั้นภูมิอย่างเป็นสัดส่วน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.88 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐาน โดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ส่วนระยะที่ 2 เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมการรักษาวินัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 5 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือใช้แบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1.การส่งเสริมการรักษาวินัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32ตามความคิดเห็นของครู โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก
2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูเกี่ยวสภาพการส่งเสริมการรักษาวินัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32ที่มีประสบการณ์การทำงานต่างกันโดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการดำเนินการทางวินัย แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนด้านอื่น ๆ ไม่แตกต่างกัน
3. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูเกี่ยวสภาพการส่งเสริมการรักษาวินัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32ที่ปฏิบัติงานในสถานศึกษาขนาดต่างกัน โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน
4. แนวทางการส่งเสริมการรักษาวินัยของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32ผู้ทรงคุณวุฒิได้ให้ข้อเสนอแนะ ดังนี้
4.1 ด้านการสร้างขวัญและกำลังใจ ผู้บริหารสถานศึกษาควรมีการเปิดใจให้ความสำคัญกับทุกคนพร้อมให้คำปรึกษาเป็นกัลยาณมิตรอยู่แบบพี่แบบน้อง ใช้กระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม ร่วมกันแก้ไขปัญหา ถูกผิดรับผิดชอบร่วมกัน และเปิดโอกาสบุคลากรทุกคนในการร่วมแสดงความคิดเห็น และสร้างข้อตกลงร่วมกันในการทำงาน และแนวทางการจัดสถานที่ทำงานอย่างเหมาะสมโดยมีวัสดุอุปกรณ์และเครื่องอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานให้กับครูและบุคลากรในโรงเรียน ได้ข้อเสนอแนะว่าสถานที่ทำงานของบุคลากรต้องมีความสะอาด เรียบร้อย สถานที่ทำงานของบุคลากรต้องมีอุปกรณ์ เครื่องมือที่ทันสมัย และพร้อมที่จะนำมาใช้งานตลอดเวลา และต้องจัดสรรงบประมาณ เพื่อใช้ในการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ในการทำงาน เพื่อเอื้อให้กระบวนการทำงานของทุกคนสะดวกสบายยิ่งขึ้น
4.2 ด้านการดำเนินการทางวินัย ผู้บริหารสถานศึกษาต้องดำเนินการสืบสวนก่อนการดำเนินการทางวินัย เมื่อมีกรณีสงสัยว่าข้าราชการครูหรือบุคลากรในสถานศึกษาอาจกระทำผิดวินัย กรณีมีมูลกระทำความผิดวินัย ต้องดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนและแนวทางในการติดตามตรวจสอบให้ครูและบุคลากรในโรงเรียนปฏิบัติตนตามระเบียบ วินัยและข้อบังคับต่าง ๆได้ข้อเสนอแนะว่าผู้บริหารสถานศึกษาต้องเอาใจใส่บุคลากรในโรงเรียนทุกคน ให้คำแนะนำ คำปรึกษา หากพบว่ามีปัญหาต้องรีบหาทางแก้ไขโดยเร็วต้องกำหนดหลักเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ มาตรฐานในการปฏิบัติงานของสถานศึกษา และต้องมีการตรวจสอบภายใน ประเมินผลการดำเนินงานและการปฏิบัติงาน รวมทั้งให้มีการรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ทุกภาคเรียน