Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของผุ้บริหารสถานสึกษาและครูเกี่ยวกับสถาพปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมยื เขต 3 โดยจำแนกตามตำแหน่งและประสบการณ์ในการดำรงตำแหน่งกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 341 คนโดยกำหนดกลุ่มตัวอย่างตามตารางสำเร็จรูปของเครจซีและมอร์แกน แล้วทำการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้วิจัยเป้นแบบสอบถามจำนวน 3 ตอน คือ แบบตรวจสอบรายการ แบบตรวจสอบประมาณค่า 5 ระดับและแบบสอบถามปลายปิด ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .9676 สถิติทีี่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลคือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การตรวจสอบสมมติฐานโยใช้ต่าที และการวิเคราะห์ความแปรปวนทางเดียว เมื้่อพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จึงทำการทดสอบรายคู่ด้วยวิธีการเชฟเฟ่ กำหนดค่าสถิติที่ระดับน้อยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพปัจจัยโดยรวมตามความคิดเห็นของผุ้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกาาประถมศึกษาบุรีรัมยืเขต 3 เกี่ยวกับสภาพปัจจัยส่งผลต่อความสำเร้จในการบริหารสถานศึกษา อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านผุ้นำทางวิชาการอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนด้านอื่นๆอยู่ในระดับมาก 2. เปรียบเทียบความคิดเห้นของผู้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกาาประถมศึกษาบุรีรัมยื เขต 3 เกี่ยวกับสภาพปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการบริหารของผุ้บริหารสถานศึกษา จำแนกตามตำแหน่งโดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.1 3. เปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครุสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกาาประถมศึกษาบุรีรัมยื เขต 3 เกี่ยวกับสภาพปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการบริหารของผู้บริหารสถานศึกาา จำแนกตามประสบการในการดำรงตำแหน่ง โดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .05 4. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหารและครุ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกาาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 เกี่ยวกับสภาพปัจจัยส่งผลต่อความสำเร็จในการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษา ทีมีจำนวนมากที่สุดคือ ผู้บริหารต้องมีความรู้และเชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและการจัดแผนการเรียนรู้