Abstract:
หัวข้อวิจัย รูปแบบการบริหารจัดการระบบการผลิตข้าวเม่าแบบบูรณาการเพื่อสร้าง
ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชนหมู่บ้านข้าวเม่า อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
ผู้วิจัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.จารินี ม้าแก้ว และคณะ
หน่วยงาน สาขาเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้า คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
ปีพ.ศ. 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องรูปแบบการบริหารจัดการระบบการผลิตข้าวเม่าแบบบูรณาการเพื่อสร้าง
ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชนหมู่บ้านข้าวเม่า อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1) ทราบศักยภาพและเศรษฐกิจชุมชนหมู่บ้านข้าวเม่า อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ 2) ให้ได้รูปแบบ
การบริหารจัดการระบบการผลิตข้าวเม่าแบบบูรณาการเพื่อสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชน
หมู่บ้านข้าวเม่า อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์3) ทดลองใช้และทราบผลการประเมินรูปแบบการ
บริหารจัดการระบบการผลิตข้าวเม่าแบบบูรณาการเพื่อสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชน
หมู่บ้านข้าวเม่า อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มเป้าหมายในการศึกษาข้อมูลใช้วิธีเจาะจงจาก
ผู้ผลิตข้าวเม่า จำนวน 33 ครัวเรือน งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยแบบผสม (Mixed Method) ใช้เครื่องมือ
เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการบริหารจัดการระบบการผลิตข้าวเม่าแบบบูรณาการเพื่อสร้าง
ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชนหมู่บ้านข้าวเม่า เป็นกระบวนการในการรวบรวมองค์ความรู้ศาสตร์
และศิลป์มาจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนโดยบูรณาการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนา
กระบวนการผลิตข้าวเม่าให้เกิดความเปลี่ยนแปลง 4 ด้าน คือ 1) ด้านเทคโนโลยีการผลิต 2) ด้าน
พลังงาน 3) ด้านอาชีวอนามัย 4) ด้านเศรษฐกิจ ผ่านกระบวนการสร้างความเปลี่ยนแปลงตามศาสตร์
พระราชา เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาโดยอาศัยการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมประเมิน สร้างความตระหนัก
และสัจจะสัญญา โดยมีเป้าหมายในการแก้ไขรูปแบบกระบวนการผลิตและแก้ไขพฤติกรรมของผู้ผลิต
ผลลัพธ์สุดท้ายคือทำให้เกิดความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชน
ผลการทดลองใช้รูปแบบพบความเปลี่ยนแปลง 3 ด้าน คือ 1) ด้านระบบการผลิตข้าวเม่า
บ่อแช่และล้างข้าวเปลือกได้มาตรฐาน เตาคั่วข้าวเม่าประสิทธิภาพสูง (เตาเทอโร) สามารถประหยัด
ฟืนลงได้ 36.63% มีการเผาไหม้สมบูรณ์เขม่าควันไฟน้อยลง 80% ทำอุณหภูมิได้สูงขึ้น 37.47%
อุณหภูมิสะสมรอบตัวเตาลดลง 38.8% ระบบการตำได้มาตรฐานมีระดับเสียงต่ำลง 14.12%
สั่นสะเทือนน้อยลง โรงเรือนการผลิตได้มาตรฐานอากาศถ่ายเทดีขึ้น 2) ด้านมิติทางสังคมตามศาสตร์
ข
พระราชา กระบวนการสร้างความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ทำให้ชุมชนเริ่มเข้าใจปัญหาของตนเอง
เปิดใจยอมรับการทำงานร่วมกับภาคี เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เกิดการระเบิดจากภายใน รู้สึก
เป็นเจ้าของ เกิดการมีส่วนร่วมและมีจิตสาธารณะ แบ่งปันช่วยเหลือกัน ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก เกิด
การรักษาสิ่งแวดล้อม เกิดการเพิ่มพูนความรู้ ได้นวัตกรรมใหม่ และลูกหลานคืนถิ่น 3) เศรษฐกิจ
ชุมชน ต้นทุนต่อกิโลกรัมลดลง 0.42% ราคาขายต่อกิโลกรัมเพิ่มขึ้น 45.83% ยอดขายข้าวเม่าโปร
เพิ่มขึ้น 8.65% รายได้ทั้งชุมชนเพิ่มขึ้น 58.45% กำไรทั้งชุมชนเพิ่มขึ้น 170% ช่องทางการจำหน่าย
หลากหลายขึ้น มีการส่งเสริมการตลาด ส่งผลทำให้เกิดการกระจายรายได้ให้กับคนในชุมชน ทำให้เกิด
ชื่อเสียงกับชุมชน การยอมรับผลิตภัณฑ์มากที่สุดคือ เนื้อสัมผัสผลิตภัณฑ์ 69.75% รองลงมาบรรจุ
ภัณฑ์สะดวกต่อการบริโภค 68.25% และน้อยที่สุดความประทับใจแรกเห็น 55.75
คำสำคัญ : รูปแบบการบริหารจัดการ, ระบบการผลิตข้าวเม่า, บูรณาการ, เศรษฐกิจชุมชน,
ศักยภาพชุมชน