Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาวิธีการจัดการความขัดแย้งของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 และเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างวิธีการจัดการความขัดแย้งของผู้บริหารโรงเรียนกับอายุ ประสบการณ์การบริหาร และขนาดของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำนวน 148 คน ซึ่งได้จากการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครจซี่ และมอร์แกน แล้วทำการสุ่มตามระดับชั้นอย่างมีสัดส่วน สำหรับเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามการจัดการความขัดแย้ง 5 แบบ ซึ่งปรับปรุงจากแบบสอบถามของโทมัส และคิลแมนน์ มีค่าความเชื่อมั่น .828 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ และทดสอบสมมติฐานโดยการใช้ไค-สแควร์ ผลการวิจัยพบว่า 1.วิธีการจัดการความขัดแย้งที่ผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ได้เลือกใช้ทั้ง 5 แบบ เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ แบบการประนีประนอม แบบการร่วมมือ แบบการยอมให้ แบบการหลีกเลี่ยง และแบบการเอาชนะ ตามลำดับ 2.วิธีการจัดการความขัดแย้งแบบการร่วมมือ แบบการประนีประนอม แบบการหลีกเลี่ยง กับ อายุ ไม่มีความสัมพันธ์กัน ส่วนวิธีการจัดการความขัดแย้งแบบการเอาชนะ และแบบการยอมให้ กับ อายุ มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.วิธีการจัดการความขัดแย้งทั้ง 5 แบบ กับ ประสบการณ์การบริหาร ไม่มีความสัมพันธ์กัน 4.วิธีการจัดการความขัดแย้งแบบการหลีกเลี่ยง กับ ขนาดของโรงเรียน ไม่มีความสัมพันธ์กัน ส่วนวิธีการจัดการความขัดแย้งแบบเอาชนะ แบบการร่วมมือ แบบการประนีประนอม และแบบการยอมให้ กับขนาดของโรงเรียน มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 "