Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อ 1) การศึกษาความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับพฤติกรรม จริยธรรม ของผู้บริหาร สถานศึกษา ในโรงเรียน สังกัดงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับพฤติกรรม คุณธรรม จริยธรรม ของผู้บริหาร สถานศึกษา ในโรงเรียน สังกัดงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำแนกตามประสบการณ์ในการสอน และขนาดของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นครูจำนวน 341 คน ซึ่งได้จากตารางกำหนด ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง ของ เครจซี่ และมอร์แกน โดยวิธีการสุ่มแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามมีค่าความเชื่อมั่น 0.985 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานโดยใช้ Independent samples t-test และ การวิเคราะห์ความแปรปรวน ทางเดียว ทดสอบความแตกต่างรายคู่ โดยวิธีการของเชฟเฟ่ โดยกำหนดค่าระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1. ความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับ พฤติกรรมคุณธรรม จริยธรรม ของผู้บริหาร สถานศึกษา ในโรงเรียน สังกัดงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 โดยรวมรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้านเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการครองตน ด้านการครองงาน และด้านการครองคน 2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับ พฤติกรรมคุณธรรม จริยธรรม ของผู้บริหาร สถานศึกษา ในโรงเรียน สังกัดงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำแนกตามประสบการณ์ในการสอน พบว่า โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 3. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับ พฤติกรรมคุณธรรม จริยธรรม ของผู้บริหาร สถานศึกษา ในโรงเรียน สังกัดงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำแนกตามขนาดของโรงเรียน โดยรวมและรายด้านแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นคำถามปลายเปิด เกี่ยวกับพฤติกรรมคุณธรรม จริยธรรม ของผู้บริหาร สถานศึกษา ในโรงเรียน สังกัดงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำนวนมากที่สุด ในแต่ละด้านมีดังนี้ ด้านการครองตน ควรประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี รู้จักคิด เพื่อความเจริญก้าวหน้าทางการศึกษา ด้านการครองงาน ควรแบ่งงานและหน้าที่ความรับผิดชอบให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล และด้านการครองคน ควรมีความยุติธรรมให้ความสำคัญกับทุกๆคน อย่างเท่าเทียมกัน