Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาการบริหารงานวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตรของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น จังหวัดบุรีรัมย์ 2) เพื่อเปรียบเทียบปัญหาการบริหารงานวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตร ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น จังหวัดบุรีรัมย์จำแนกตามสถานภาพตำแหน่งและขนาดของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3) เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาการบริหารงานวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตร ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น จังหวัดบุรีรัมย์ การวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาปัญหาการบริหารงานวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตรของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและครูผู้ดูแลเด็กตามขนาดของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในระดับขนาดเล็กขนาดกลางและขนาดใหญ่ ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างง่าย (Simple random) เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 2 แนวทางแก้ปัญหา โดยการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหาร และเชี่ยวชาญด้านการสอนระดับปฐมวัยเป็นที่ยอมรับจำนวน 7 คน ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive selection) เครื่องมือที่ใช้ได้แก่แบบสัมภาษณ์แนวทางการแก้ไขปัญหาการบริหารงานวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตร วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) ผลของการวิจัย 1.ปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาการบริหารงานวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตรของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น จังหวัดบุรีรัมย์ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูดูแลเด็กโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การนิเทศการศึกษา รองลงมา คือ ด้านการวิจัยในชั้นเรียน และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ ด้านการเขียนแผนการจัดประสบการณ์ และด้านการวัดผลและประเมินผล 2.ปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาการบริหารงานวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตรของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น จังหวัดบุรีรัมย์ จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่าง 3.เปรียบเทียบความคิดเห็นเห็นผู้บริหารและครูดูแลเด็กเกี่ยวกับปัญหาการบริการงานวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตรของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น จังหวัดบุรีรัมย์ จำแนกตามขนาดของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการนิเทศการศึกษา ด้านการวิจัยในชั้นเรียน ด้านโภชนาการ ด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (กิจกรรมวันสำคัญต่างๆ / โครงการที่ส่งเสริมผู้เรียน) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 ด้านการประเมินคุณภาพภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ส่วนด้านอื่นๆไม่แตกต่างกัน 4.ความคิดเห็นจากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาบริหารงานวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตรซึ่งแนวทางแก้ปัญหาในด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านนิเทศการศึกษา หน่วยงานต้นสังกัดควรมีการวางแผนพัฒนากระบวนนิเทศการศึกษาอย่างมีระบบ มีการกำกับติดตามและประเมินผล รวมทั้งรายงานผลการนิเทศต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาต่อไป และรองลงมาคือ ด้านการวิจัยในชั้นเรียน หน่วยงานต้นสังกัดควรส่งเสริมสนับสนุนให้ครูเข้ารับการอบรมการออกแบบและจัดทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และมีการรายงานการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนต่อหน่วยงานต้นสังกัดอย่างน้อยปีล่ะ 1 ครั้ง