Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูเกี่ยวกับปัญหาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานงบประมาณของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 จำแนกตามสถานภาพ ตำแหน่ง และประสบการณ์ปฏิบัติงาน และศึกษาแนวทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงบประมาณ กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครจซี่และมอร์แกนได้จำนวนทั้งสิ้น 486 คนแล้วทำการสุ่มวิธีการแบบชั้นภูมิ ประกอบด้วยผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 148 คน และครู จำนวน 338 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมี 3ลักษณะคือ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประเมินค่า มี 5 ระดับ และแบบปลายเปิดมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.9870 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบสมมติฐาน โดยการวิเคราะห์ t-test และ F-test และเมื่อพบความแตกต่างใช้การเปรียบเทียบรายคู่ตามวิธีการของเชฟเฟ่ กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ.05ผลการวิจัยพบว่า 1)ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกาและครูโดยรวมมีปัญหาอยู่ในระดับมากด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการบริหารการบัญชี 2)ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูจำแนกตามสภาพตำแหน่งโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน จำแนกตามประสบการณ์ปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษาโดยรวมรายด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05เมื่อทดสอบรายคู่พบว่าผู้มีประสบการณ์ปฏิบัติงานน้อยกว่า5ปีกับประสบการณ์มากกว่า 10 ปีมีความคิดเห็นแตกต่างกัน 3)แนวทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานงบประมาณพบว่า 3.1)สถานศึกษาควรจัดหาคอมพิวเตอร์ในการรายงานข้อมูลทางการเงิน3.2)สถานศึกษาควรมีการจัดทำบัญชีด้วยคอมพิวเตอร์ 3.3)สถานศึกษาควรมีการบันทึกข้อมูลสิ่งก่อสร้างในระบบ(B-Obec)และจัดหาผู้ที่รับผิดชอบงานด้านการรายงานข้อมูลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ