Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาและเปรียบเทียบสภาพการดำเนินงานระบบการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ตามแนวทางที่สำนักงานและกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดใน 5 ประการ ได้แก่ การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล การคัดกรองนักเรียน การส่งเสริมและพัฒนานักเรียนการป้องกันช่วยเหลือและแก้ไช และการส่งต่อนักเรียน โดยจำแนกตามสถานภาพ ตำแหน่งและขนาดของโรงเรียนกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารและครูแนะแนว 204 ได้จากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม ได้ค่าความเชื่อมั่นองแบบสอบถามเท่ากับ .9518 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมุติงาน คือ t-test และ f-test กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1.ความคิดเห็นของผู้บริหารและครูแนะแนวเกี่ยวกับสภาพการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยที่สูงที่สุด คือ ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นราบบุคคล รองลงมา คือ ด้านการคัดกรองนักเรียน ด้านการป้องกัน ช่วยเหลือและแก้ไข ด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนและด้านการส่งต่อนักเรียนตามลำดับ 2.ความคิดเห็นของผู้บริหารของผู้บริหารและครูแนะแนวเกี่ยวกับสภาพการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนจำแนกตามสถานภาพตำแหน่งโดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 3.ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูแนะแนวเกี่ยวกับสถานภาพการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนจำแนกตามขนาดโรงเรียน โดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 4.ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสภาพการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ที่มีจำนวนมากที่สุด คือโรงเรียนควนจัดให้ครูที่ปรึกษาได้ดูแลนักเรียนอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง รองลงมาคือด้านการอบรมครูด้านการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่อง การประสานงานกับหน่วยงานอื่นให้มากขึ้น ด้านครูที่ปรึกษาควรออกไปเยี่ยมบ้านเพื่อจะได้รู้จักนักเรียนเป็นอย่างดี โรงเรียนควรจัดกิจกรรมต่างๆ ให้นักเรียนในระดับชั้นเดียวกันและต่างระดับได้ร่วมกิจกรรมกันเพื่อสร้างประโยชน์ให้นักเรียนและโรงเรียน ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น และมีการประชุมบ่อยๆ ครูที่ปรึกษาควรทำกิจกรรมร่วมกับนักเรียนบ่อย ๆ ควรให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเสนอแนวคิดติดต่อระบบการดูแล ช่วยเหลือนักเรียนและด้านครูและโรงเรียนควรเข้มงวดกับกฎระเบียบของโรงเรียนเพราะไม่เช่นนั้นก็จะทำให้นักเรียนไม่เห็นความสำคัญของกฎและระเบียบต่างๆ