Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาประเภทของสื่อที่ผู้บริหารโรงเรียนรับข่าวสารทางวิชาการ ปัญหาการรับข่าวสารทางวิชาการ ความต้องการรับข่าวสารทางวิชาการ และเปรียบเทียบปัญหาและความต้องการของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ประชากรที่ใช่ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วยผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 244 คน กลุ่มตัวอย่าง 148 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมี 4 ลักษณะ คือ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตรส่วนประมาณค่า แบบเลือกตอบ และแบบปลายเปิด ค่าความเชื่อมั่น 0.9681 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลและพบความแตกต่างได้เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ โดยวิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe’s Method) กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1. ผู้บริหารโรงเรียนได้รับข่าวสารทางวิชาการจากวารสารวิชาการมากที่สุด รองลงมา คือ ข่าวคุรุสภา วารสารกบข., วารสารข้าราชการครู และวารสารปฏิรูปการศึกษา 2. ผู้บริหารโรงเรียนมีปัญหาการรับข่าวสารทางวิชาการ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ขาดสื่อและอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการรับข่าวสาร ไม่มีอุปกรณ์ดาวเทียมในการรับข่าวสารทางโทรทัศน์เพื่อการศึกษา (Education Television, ETV) หน่วยงานที่ผลิตข่าวสารไม่ได้ถามความต้องการของสังคม การถ่ายทอดข่าวทางโทรทัศน์ไม่ทั่วถึงทุกช่อง และข่าวส่วนใหญ่ออกอากาศในเวลาราชการทำให้ไม่มีเวลารับรู้ 3. ผู้บริหารโรงเรียนมีความต้องการในการรับข่าวสารทางวิชาการ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ระเบียบ แนวปฏิบัติ และกฎเกณฑ์ใหม่อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา การจัดทำหลักสูตรท้องถิ่น การจัดระบบบริการและสารสนเทศ และความเคลื่อนไหวในวงการศึกษา 4. ผู้บริหารโรงเรียนที่มีเพศต่างกันและปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกันมีปัญหาการรับข่าวสารทางวิชาการแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนผู้บริหารโรงเรียนที่มีอายุ การศึกษาสูงสุด และประสบการณ์การทำงานต่างกันมีปัญหาการรับข่าวสารทางวิชาการไม่แตกต่างกัน 5. ผู้บริหารโรงเรียนที่มีเพศ อายุ การศึกษาสูงสุด ประสบการณ์ในการทำงาน และปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกันมีความต้องการในการรับข่าวสารทางวิชาการไม่แตกต่างกัน 6. ผลจากการตอบแบบสอบถามปลายเปิดผู้บริหารโรงเรียนแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาในการรับข่าวสารทางวิชาการ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ขาดงบประมาณในการจัดซื้อสื่อที่ใช้ในการรับข่าวสาร สื่อไม่เพียงพอกับผู้รับข่าวสารและการเสนอข่าวในเวลาราชการ โรงเรียนอยู่ห่างไกลความเจริญ และไม่สามารถรับสัญญาณโทรทัศน์ได้ ส่วนข้อเสนอแนะและความต้องการในการรับข่าวสารทางวิชาการเพิ่มเติมของผู้บริหารโรงเรียน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ต้องการให้จัดสรรงบประมาณดำเนินการ และซ่อมบำรุงสื่อที่ใช้ในการสื่อสาร ต้องการข่าวที่นำเสนอวิธีการปฏิบัติมากกว่าหลักการและปรัชญาต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกนิเทศติดตามการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อจะได้รับทราบปัญหาและความต้องการของครูโดยตรง และเนื้อหาข่าวสารทางวิชาการที่ผู้บริหารโรงเรียนต้องการรับรู้เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ การกิจกรรมการเรียนการสอน การสร้างสื่อนวัตกรรมที่ทันสมัย การพัฒนาหลักสูตรแกนกลางและหลักสูตรท้องถิ่น และความเคลื่อนไหวทางการศึกษา