Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) สร้างแบบฝึกทักษะการอ่านในใจกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านในใจของนักเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านในใจกับการเรียนปกติ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านในใน ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2553 โรงเรียนบ้านละหานทราย (คุรุราษฎ์บำรุงวิทยา) จำนวน 40 คน จำนวน 2 ห้องเรียน กลุ่มตัวอย่างใช้ประชากรโดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กำหนดให้ห้องหนึ่งเป็นกลุ่มทดลองมีจำนวน 20 คน และอีกห้องหนึ่งเป็นกลุ่มควบคุมมีจำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบฝึกทักษะการอ่านในใจ แผนการจัดการเรียนรู้แบบฝึกทักษะการอ่านในใจและการเรียนปกติ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านในใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐาน โดยใช้ Dependent Samples t-test และ Independent Samples t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. แบบฝึกทักษะการอ่านในใจกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีประสิทธิภาพ 85.82/85.16 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ด้านการอ่านในใจของนักเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านในใจ สูงกว่านักเรียนที่เรียนโดยการเรียนปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. นักเรียนมีความพึงพอใจที่ดีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านในใจอยู่ในระดับมาก "