การศึกษาความตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการนิเทศภายในอย่างเป็นระบบของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์

Abstract

จุดมุ่งหมายของการวิจัยนี้คือเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบตัวแปรที่มีผลทำให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการนิเทศภายในอย่างเป็นระบบตามความคิดเห็นของผู้บริหาร 265 คนและครู 368 คน ในโรงเรียนในสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test ผลการวิจัยพบว่า ความคิดเห็นของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับตัวแปรที่ทำให้เกิดความาตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการนิเทศภายในอย่างเป็นระบบโดยรวมอยู่ในระดับมาก ยกเว้นด้าน "นโยบายและการติดตามส่งเสริมสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง" และด้าน "กระบวนการนิเทศ" ที่ผู้บริหารและครูมีความคิดเห็นในระดับกลาง เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูโดยรวมจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดัย .01 แต่ความคิดเห็นของทั้งสองกลุ่มต่อ "การมีส่วนร่วมของชุมชน" แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับด้าน "แรงจูงใจ" มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 เมื่อแบ่งตามประสบการณ์ในการทำงานพบว่าไม่มีความแตกต่างกัน ยกเว้นด้าน "กระบวนการนิเทศ" และด้าน "การมีส่วนร่วมของชุมชน" มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และด้าน "นโยบายและการติดตามส่งเสริมสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง" มีความแตกต่างกันที่ระดับ .05 ส่วนความคิดเห็นต่อด้าน "บรรยากาศในการนิเทศ" และด้าน "แรงจูงใจ" ไม่มีความแตกต่างกัน ผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า ความคิดเห็นของผู้บริหารและครูกลุ่มที่มีประสบการณ์ในการทำงาน 10-20 ปี กับกลุ่มที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี และกลุ่มทีมีประสบการณ์ในการทำงานต่ำกว่า 10 ปี กับกลุ่มที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีขึ้นไปมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยกลุ่มที่มีประสบการณ์ในการทำงานนัอยกว่า จะตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการนิเทศภายในอย่างเป็นระบบมากกว่ากลุ่มที่มีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่า