Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1)ศึกษาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเพลง ตามเกณฑ์ 75/75 2)ศึกษาความสามารถด้านทักษะการฟัง การพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังเรียนโดยใช้กิจกรรมเพลง 3)เปรียบเทียบความรู้ด้านศัพท์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังเรียนโดยใช้กิจกรรมเพลง 4) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของการใช้กิจกรรมเพลงและ 5)ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้กิจกรรมเพลง กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ที่กำลังเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม โดยการวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีรูปแบบการวิจัยเป็นการทดลองกลุ่มเดียว ดำเนินการสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเพลง จำนวน 8 แผน 2)กิจกรรมประกอบการสอนจำนวน 8 เพลง 3)แบบทดสอบวัดความสามารถด้านทักษะ การฟัง – พูดภาษาอังกฤษ และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเพลง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ Dependent Sample t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเพลง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่า 83.40/80.66 2. นักเรียนมีความสามารถด้านทักษะการฟัง การพูดภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนในระดับดี 3. นักเรียนมีความรู้ด้านคำศัพท์ หลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. แผนการจัดการเรียนโดยใช้กิจกรรมเพลง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6036 คิดเป็นร้อยละ 60.36 5. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเพลง อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 4.32