Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพการดำเนินงานของศูนย์การเรียนชุมชนในเขตการศึกษา 11 จำนวน 6 ด้าน คือด้านอาคารสถานที่ วัสดุ ครุภัณฑ์ ด้านบุคลากร ด้านการจัดกิจกรรม ด้านการประสานงาน ด้านงบประมาณและด้านการบริหารและการจัดการ ตามความคิดเห็นของครูศูนย์การเรียนชุมชน จำแนกตามตัวแปรเพศ ประสบการณ์ในการปฏิบัติงานการศึกษานอกโรงเรียนและสถานที่ตั้งจังหวัดที่ปฏิบัติงาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือครูศูนย์การเรียนชุมชนจำนวน 266 คน ที่ได้จากการสุ่มแบบหลายขั้นตอนจากประชากรที่เป็นครูศูนย์การเรียนชุมชน ในเขตการศึกษา 11 จากจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .99 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานทดสอบสมมติฐานโดย t-test แบบ Independent samples และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (one-way ANOVA) กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ.05 ทดสอบความแตกต่างรายคู่ โดยใช้สูตรของเชฟเฟ่ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ครูศูนย์การเรียนชุมชน มีความคิดเห็นว่าสภาพการดำเนินงานของศูนย์การเรียนชุมชนในเขตการศึกษา 11 มีการดำเนินงานโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับปานกลางโดยมีค่าคะแนนเฉลี่ยของความคิดเห็นต่อการดำเนินงานด้านการจัดกิจกรรมมากที่สุดรองลงมาคือด้านการประสานงาน ด้านการบริหารและการจัดการ ด้านบุคลากร ด้านอาคารสถานที่ วัสดุ ครุภัณฑ์และด้านงบประมาณตามลำดับ 2. เมื่อเปรียบเทียบสภาพที่ดำเนินงานของศูนย์การเรียนชุมชนพบว่าครูศูนย์การเรียนชุมชน จำแนกตามเพศ ประสบการณ์ในการทำงานและจังหวัดที่ตั้งศูนย์การเรียนชุมชนมีความเห็นเกี่ยวกับสภาพการดำเนินงานศูนย๋การเรียนชุมชนโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน3. ผลการวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่เป็นปัญหาในการปฏิบัติงานในศูนย์การเรียนชุมชนคือด้านงบประมาณโดยเฉพาะในเรื่องของวัสดุครุภัณฑ์ และการจัดสวัสดิการต่างๆ สำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ส่วนที่เป็นจุดเด่นในการปฏิบัติงานคือการจัดกิจกรรมให้กับผู้เรียนในเรื่องของการแนะแนวการวางแผนการเรียนการสอนและมีการประสานงานที่ดีระหว่างศูนย์การเรียนชุมชนกับเครือข่ายองค์กรท้องถิ่นในการร่วมมือกันจัดกิจกรรมการศึกษานอกโรงเรียน
