Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่องงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย ( งานใบตอง ) กลุ่มสารการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของชั้นประถมศึกษาปีที่6 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่องงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย (งานใบตอง) โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเียนแสนศิริอนุสรณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553 จำนวน30 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้เอกสารประกอกากรเรียนรู้ แบบทดสอบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ เป็นสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก ซึ่งมีค่าความยากง่าย ตั้งแต่ .35 - .78 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ .34 - .78 และค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 034 -78 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.8316 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ไดเแก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบียงเบมาตราฐานและทดสอบสมมติฐานโดยใช้ Dependent Samples t- test ผลการวิจัยพบว่า 1. เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่องงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย ( งานใบตอง ) กลุ่มสารการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ เท่ากับ 86.81/87.22 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 2.นักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ กลุ่มสารการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสุงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.นักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ กลุ่มสารการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก