Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มี่จุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาผลสำฤทธิ์ของการใช้กิจกรรมการเรียนภาษาอังกฤษแบบผสานเพี่อเพิ่มพูนทักษะการฟัง-พูด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เปรียบเทียบผลสำฤทธิ์ของการใช้กิจกรรมการเรียนภาษาอังกฤษแบบผสานเพื่อเพิ่มพูนทักษะการฟัง-พูด ก่อนเรียนและหลังเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 3) ศึกษาเจตคติของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนภาษาอังกฤษหลังเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนภาษาอังกฤษแบบผสมผสานเพื่อเพิ่มพูนทักษะการฟัง-พูด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านสมเด็จเจ้าพระยาอุปถัมภ์ อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เขต 2 ซึ่งกำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2550 จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียนจำนวน 27 คน โดยการวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีรูปแบบการวิจัยเป็นการทดลองกลุ่มเดียว ดำเนินการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pretest-Posttest Design) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนภาษาอังกฤษแบบผสมผสาน จำนวน 8 แผน 2) แบบทดสอบในการฟัง-พูด ภาษาอังกฤษ และ 3) แบบวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบผสมผสาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและใช้ค่า Dependent Samples t-test ในการทดสอบสมมติฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษด้านความเข้าใจในการฟัง-พูด ก่อนเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 จำนวน 2 คน และนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษด้านความเข้าใจในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษหลังเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 จำนวน 21 คน 2. เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษด้านความเข้าใจในการฟัง-พูดก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบผสมผสานพบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ด้านความเข้าใจในการฟัง-พูด ภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. นักเรียนมีเจตคติเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบผสมผสาน โดยเฉลี่ยมีระดับความคิดเห็น อยู่ในระดับเห็นด้วย โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด 3 อันดับได้แก่ นักเรียนเห็นด้วยอย่างยิ่งว่ากิจกรรมการเรียนแบบผสมผสานมีประโยชน์ในการฝึกฝนการพูดของนักเรียน กิจกรรมการฝึกพูดกับเพื่อนทำให้นักเรียนรู้สึกพอใจในการฝึกฝนการพูดของนักเรียน กิจกรรมฝึกพูดกับเพื่อนทำให้นักเรียนรู้สึกพอใจ และกิจกรรมการเรียนภาษาอังกฤษแบบผสมผสานส่งเสริมให้นักเรียนพูดภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยเจตคติน้อยที่สุด คือกิจกรรมการเรียนภาษาอังกฤษแบบผสมผสานไม่เหมาะสมกับกิจกรรมการฟัง-พูด