Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาการใช้หลักคุณธรรมในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา ในโรงเรียนสำกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 ตามความคิดเห็นของครูใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการครองตน ด้านการครองตน และด้านการครองงาน 2) เปรียบเทียบการใช้หลักคุณธรรมในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา ทั้ง 3 ด้านจำแนกตามเพศ และประสบการณ์ และ 3) เพื่อรวบรวมปัญหาและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมที่เกี่ยยวข้องกลุ่มตัวอย่างป็นครู 335 คน ซึ่งได้มาโดยตารางกำหนดขนาดกลุ่มของตัวอย่างของเครจซีและมอร์แกนและการสุ่มแบบง่าย เครื่องมทอที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นและค่าความเชื่อมั่น 0.88 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยล่ะ ค่าเฉี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การทดสอบค่าเอฟ และวิธีการของเชฟเฟ สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้ 1. การใช้หลักคุณธรรมในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน โดยรวมและเกือบทุกด้านอยู่ในระดับมาก 2. การใช้หลักคุณธรรมในการบริหารงานของผู้บริหารสถารศึกษาสังกัดเขตพ้นที่การศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 ตามความคิดเห็นของครูผู้สอนจำแนกตามเพศ และประสบการณ์ต่ำกว่า 10-20 ปี และมากกว่า 20 ปี โดยรวมและรายได้เกือบทุกด้านอยู่ในระดับมาก 3. การใช้หลักคุณธรรมในการบริหารงานของผู้บริหารสถารศึกษาสังกัดเขตพ้นที่การศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 ตามความคิดเห็นของครูผู้สอนจำแนกตามเพศ และประสบการณ์ ต่างกันโดยรวมและรายได้ไม่ต่างกัน 4. ปัญหาสำคัญในการใช้หลักคุณธรรมในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกา ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่กาครศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 ตามความเห็นของครูผู้สอน ได้แก่ ผู้บริหารไม่มีการพัฒนางานของตนเองเพื่อสังคมอย่างเต็มความสามรถ ไม่ให้ความยุติธรรมและใช้หลักธรรมาภิบาลกับผู้ใต้บังคับบัญชา และมอบหมายไม่ตรงตามความถนัดและความสามารถ และมีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ได้แก่ ผู้บริการควรพัมนางานของตนเองเพื่อสังคมอย่างเต็มศักยภาพและความเจริญก้าวหน้าทางการศึกา ควรให้ความเสมอภาคต่อผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน และไม่ควรปฏิบัตรหน้าที่โดยเห็นแก่เตรือญาติและพวกพ้องของต้นเอง
