Abstract:
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อการศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชากรที่มีต่อการพัฒนาตลาดการค้าชายแดนบริเวณจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนาตลาดการค้า ด้านการกำหนดนโยบาย และกลไกการค้า และด้านสภาพแวดล้อมทางการภาพและผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชากร จำนวน 361 คน ผู้ประกอบการค้า จำนวน 152 คน และนักท่องเที่ยว จำนวน 100 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 613 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 2 ประเภท คือ แบบสอบถามแบบมาตราส่วน 5 ระดับ และแบบสัมภาษณ์ โดยมีค่าความเชื่อมั่น 0.9139 แบบสัมภาษณ์ใช้การวิเคราะห์โดยอุปมาน ส่วนข้อมูลจากการตอบแบบสอบถามใช้การวิเคราะห์ด้วยการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์ค่า t-test Independent และ F-test ผลการวิจัยพบว่า 1. การพัฒนาตลาดการค้าชายแดน บริเวณจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับปานกลาง เช่นกัน โดยด้านที่มีค่าสูงสุด คือ ด้านการพัฒนาตลาดการค้ารองลงมา คือด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพและด้านผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายที่ตลาดการค้า ตามลำดับ 2. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบการพัฒนาตลาดการค้าชายแดน บริเวณจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ โดยภาพรวมและรายด้าน พบว่า ด้านการกำหนดนโยบายและกลไกการค้า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพและด้านผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายที่ตลาดการค้าแตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านการพัฒนาตลาดการค้า ไม่แตกต่างกัน 3. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบการพัฒนาตลาดการค้าชายแดน บริเวณจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวดบุรีรัมย์ ที่มีสถานภาพทางอาชีพแตกต่างกัน โดยภาพรวม และรายด้าน พบว่า ด้านการพัฒนาตลาดการค้าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ด้านการกำหนดนโยบายและกลไกการค้า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพและด้านผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายที่ตลาดการค้าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. จากการสัมภาษณ์ในแต่ละด้านมีดังต่อไปนี้ ด้านการพัฒนาตลาดการค้า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเสนอแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนเพื่อกำหนดเป็นเขตการค้า มีการปรับปรุงระบบภาษีและขั้นตอนการนำสินค้าเข้าออกการจัดแผนผังของตลาดและสิ่งก่อสร้างอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการด้านการกำหนดนโยบายและกลไกการค้าควรมีการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการช่วยเหลือประชาชนผู้ส่งออกให้มีรายได้ มีงานทำ และไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบทำให้การค้ามีความเป็นธรรม และจัดการการลักลอบการค้าสินค้าหนีภาษีด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพแวดล้อมทางกายภาพและด้านผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายที่ตลาด ต้องมีการวางแผนการค้า เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม การพิจารณาจุดแข็ง จุดอ่อนด้านสินค้ามีหลากหลายประเภทและมีศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่เป็นผลมาจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน "