Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพที่เป็นจริงและสภาพที่คาดหวังในการมีส่วนร่วมของชุมชนกับโรงเรียนในการจัดการศึกษาความคิดเห็นของผู้ปกครองและผู้บริหารโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์เขต 3 ในกรอบ 4 ด้าน คือ ด้านบริหารงานวิชาการ ด้านบริหารงานงบประมาณ ด้านบริหารงานบุคคล และด้านบริหารงานทั่วไป กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 377 คน ได้จากการสุ่มประชากรตามระดับชั้น และผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 60 คน ใช้ประชากร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มี 3 ลักษณะ คือ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า และแบบปลายเปิด มีค่าความเชื่อมั่นของสภาพที่เป็นจริง เท่ากับ 0.9845 และสภาพที่คาดหวัง เท่ากับ 0.9796 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทาสอบสมมติฐานใช้ t-test, One-way ANOVA และการเปรียบเทียบรายคู่ในแต่ละด้านโดยวิธี LSD ผลการวิจัยพบว่า 1.ผู้ปกครองมีความคิดเห็นต่อสภาพที่เป็นจริงในการมีส่วนร่วมของชุมชนกับโรงเรียนในการจัดการศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนผู้บริหารโรงเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับน้อย เมื่อพิจารณาความคิดเห็นต่อสภาพที่คาดหวัง พบว่า ผู้ปกครองและผู้บริหารโรงเรียนมีความคิดเห็นโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2.ผลการเปรียบเทียบสภาพที่เป็นจริงกับสภาพที่คาดหวังในการมีส่วนรวมของชุมชนกับโรงเรียนในการจัดการศึกษาตามความคิดเห็นของผู้ปกครองและผู้บริหารโรงเรียน พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3.ผลการเปรียบเทียบสภาพที่เป็นจริงและสภาพที่คาดหวังในการมีส่วนรวมของชุมชนกับโรงเรียนในการจัดการศึกษาตามความคิดเห็นของผู้ปกครองและผู้บริหารโรงเรียน พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4.ผลการเปรียบเทียบสภาพที่เป็นจริงและสภาพที่คาดหวังในการมีส่วนรวมของชุมชนกับโรงเรียนในการจัดการศึกษาตามความคิดเห็นของผู้ปกครองและผู้บริหารโรงเรียน พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านบริหารงานทั่วไป มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และด้านบริหารงานบุคคล มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านบริหารงานวิชาการ และด้านบริหารงานงบประมาณ ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ 5.ผลการเปรียบเทียบสภาพที่คาดหวังในการมีส่วนรวมของชุมชนกับโรงเรียนในการจัดการศึกษาตามความคิดเห็นของผู้ปกครองในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกัน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านบริหารงานวิชาการ และด้านบริหารงานบุคคล มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนด้านบริหารงานงบประมาณ และด้านบริหารงานทั่วไป มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 6.ความต้องการมีส่วนร่วมอื่นๆตามความคิดเห็นของผู้ปกครองและผู้บริหารโรงเรียนคือ ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสอนวิชาชีพ ต้องการทราบข่าวสารต่างๆ ภายในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง และต้องการให้ชุมชนมีความตั้งใจจริงในการร่วมมือกับโรงเรียน 7.สภาพปัญหาของการมีส่วนร่วม ตามความคิดเห็น ของผู้ปกครองและผู้บริหารโรงเรียน คือ ประชาชนไม่มีเวลา มีฐานะยากจน และชุมชนไม่เข้าใจบทบาทของตนเองในการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา