Abstract:
การวิจัยครั้งนี้เป็นศึกษาสภาพการบริหารจัดการโรงเรียนมาตรฐานสากล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 32 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ จำนวน 9 ด้าน คือด้านบริหารงานทั่วไป ด้านบริหารงานวิชาการ ด้านบริหารงานบุคคล ด้านบริหารงานงบประมาณ ด้านความเป็นเลิศทางวิชาการ ด้านความสามารถสื่อสารอย่างน้อยได้สองภาษา ด้านล้ำหน้าความคิด ด้านผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และด้านร่วมมือกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก ประชากรได้แก่ ผู้บริหารและครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ในโรงเรียนมาตรฐานสากล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 เป็นผู้บริหาร จำนวน 75 คน และครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ จำนวน 120 คน เครื่องมือที่ใช้ในการการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบทดสอบ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test และ F-test ผลการวิจัยพบว่า 1.ความคิดเห็นของผู้บริหาร และครูกลุ่มหัวหน้าสาระการเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพการบริหารจัดการโรงเรียนมาตรฐานสากล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 โดยรวมและรายด้าน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก โดยด้านบริหารงานทั่วไปมีค่าเฉลี่ยสูงสุดรองลงมาคือ ด้านบริหารงานงบประมาณ และด้านร่วมรับผิดชอบต่อสังคมโลก ตามลำดับ 2.การเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหาร และครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพการบริหารจัดการโรงเรียนมาตรฐานสากล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 ไม่แตกต่างกัน 3.การเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหาร และครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพการบริการจัดการโรงเรียนมาตรฐานสากล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 จำแนกตามขนาดโรงเรียน โดยรวมและรายด้าน แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นด้านบริหารงานบุคคล ไม่แตกต่างกัน 4.ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสภาพการบริหารจัดการโรงเรียนมาตรฐานสากล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 32 ที่มีจำนวนมากที่สุดคือมาตรฐานสากล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 32 ที่ทีจำนวนมากที่สุดคือส่งเสริมการสอนด้วยวิธีบันได 5 ขั้น พัฒนาเทคนิคการวัดผลประเมินผลเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ O-NET ของนักเรียน รองลงมาคือ ควรจัดกิจกรรมส่งเสริมการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ทักษะการแก้ไขปัญหาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ O-NET 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
