Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดของครูเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาตามหลักสูตรธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสะแก้วจำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน และการศึกษาข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของครูเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาตามหลักสูตรธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสะแก้ว กลุ่มตัวอย่างเป็นครู สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ทั้ง 9 แห่ง ปีการศึกษา 2558 โดยกำหนดกลุ่มตัวอย่างตามสูตรการทาโร ยามาเน (TARO YAMANE) ได้จำนวน 134 คน แล้วทำการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม 3 ลักษณะ คือแบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่าและแบบปลายเปิด มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.984 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความที่ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบ t-test ( Independent Samples t- test) ผลการวิจัยพบว่า 1. ครูเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาตามหลักสูตรธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสะแก้ว โดยรวมอยู่ระดับมาก 2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูจะแนกตามประสบการณ์ในการทำงานต่างกันพบว่าครูมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาตามหลักสูตรธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสะแก้ว โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 3. การศึกษาความคิดเห็นข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของครูเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาธิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสะแก้วหลักประสิทธิผลคือ ครูเสนอแนะว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ควรมีการว่างแผนการทำงานอย่างคบถ้วนด้านหลักประสิทธิภาพควรมีการบริการจัดการทำงาน โดยมุ่งเน้นตอบเสนองความต้องการของ(บริการอย่างทั่วถึง ด้านหลักการตอบสนอง ควรมีการรับฟังความคิดเห็น มีส่วนรวมในการแสดงความคิดเห็น และการกระตุ้นการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชา ด้านหลักภาระรับผิดชอบ คือกำหนดทิศทางในการทำงานที่ชัดเจน ด้านหลังความโปร่งใส ควรมีกระบวนการบริหารเงิน และพัสดุที่ถูกต้อง และชัดเจน และมีระบบการตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจนมีการโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้านหลักการมีส่วนร่วมควรมีการทำงานเป็นทีม และสร้างเครือข่ายในการทำงาน รับฟังปัญหา ความคิดเห็นของบุคคล และมีส่วนร่วนในการแก้ไขปัญหา พร้อมปรับปรุง ประสานความสัมพันธ์ และให้ความช่วยเหลือด้านหลักในการกระจายอำนาจควรมีการกำหนดภาระหน้าที่ หรือขั้นตอนการดำเนินงานของหน่วยงานที่ชัดเจน และมอบหมายงานแก่บุคคลในหน่วยงานอย่างเหมาะสมด้านหลักนิติธรรมควรยึดหลังความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติงาน ทำหน้าที่โดยคำนึงถึง กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัดด้านกลักความเสมอภาคควรมีการควบคุม ติดตาม และตรวจสอบการบริหารงานอย่างต่อเนื่องและเป็นธรรม ด้านหลักมุ่งเน้นฉันทามติควรมีกระบวนการทำงานร่วมกัน มุ่งเน้นประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ