Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์จำแนกตามเพศ ประสบการณ์ในการทำงาน และขนาดของโรงเรียนและเพื่อหาแนวทางการพัฒนาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ครูเอกชน จำนวน 291 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นชุดแบบสอบถามข้อมูลเชิงปริมาณนำมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าคะแนนทีที่เป็นอิสระต่อกันและการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และข้อมูลเชิงคุณภาพนำมาวิเคราะห์เชิงเนื้อหาผลการวิจัยพบว่า
1. ระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านสถานะทางอาชีพ รองลงมา คือ ด้านความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ด้านความเป็นอยู่ส่วนตัว
2. ผลการเปรียบเทียบระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ จำแนกตามเพศ พบว่าโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน
3. ผลการเปรียบเทียบระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ จำแนกตามประสบการณ์ในการทำงานพบว่า โดยรวมไม่แตกต่างกัน และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คือ ด้านเงินเดือนและสวัสดิการ เพียงด้านเดียว ส่วนด้านอื่นๆ ไม่แตกต่างกัน
4. ผลการเปรียบเทียบระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ จำแนกตามขนาดโรงเรียน โดยรวมไม่แตกต่างกัน และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คือ ด้านความรับผิดชอบเพียงด้านเดียว ส่วนด้านอื่นๆ ไม่แตกต่างกัน
5. แนวทางการพัฒนาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีจำนวนผู้เสนอแนะมากที่สุด โดยพิจารณาจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 3 อันดับ คือ ด้านความเป็นอยู่ส่วนตัว ด้านเงินเดือนและสวัสดิการและด้านความก้าวหน้า โดยด้านความเป็นอยู่ส่วนตัว ควรมีนโยบาย แผนงานและแนวทางในการยกระดับความเป็นอยู่ส่วนตัวของครูให้ดีขึ้น ด้านเงินเดือนและสวัสดิการ พิจารณาอัตราเงินเดือนของครูให้มีความเป็นธรรม และด้านความก้าวหน้า ควรมีนโยบาย แผนงานและแนวทางในการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้