Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรม เรื่องระบบหมุนเวียนเลือดและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75
2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรม
3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรม และ 4) เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรม
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนกู่สวนแตงพิทยาคม อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 35 คน 1 ห้องเรียน ด้วยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 4 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 4 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ จำนวน 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากระหว่าง 0.38 – 0.50 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.44 – 0.75 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.82 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ
ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน E1/E2 และทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ dependent sample t-test
ผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมเรื่องระบบหมุนเวียนเลือดและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 81.57 / 82.38 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนชุดกิจกรรมเรื่องระบบหมุนเวียนเลือดและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อชุดกิจกรรมเรื่องระบบหมุนเวียนเลือดและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) มีความพึงพอใจอยู่ในระดับสูง
4. ความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเรื่องระบบหมุนเวียนเลือดและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ของนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ แตกต่างกับหลังเรียนจบทันทีที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05