Abstract:
โครงการวิจัยแนวทางจัดสภาพแวดล้อมและที่พักอาศัยที่เป็นมิตรส าหรับผู้สูงอายุ พื้นที่ในล าน้ า
ห้วยจรเข้มาก จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้วิจัยได้รวบรวมข้อมูลของผู้สูงอายุ เลือกสุ่มกรณีศึกษาจ านวน 136 คน
ตามพื้นที่ต้นน้ า กลางน้ า และปลายน้ าของล าน้ าห้วยจรเข้มาก ได้แก่ 1) บ้านบุขี้เหล็ก ต าบลแสลงพัน
อ าเภอล าปลายมาศ 2) บ้านม่วงใต้ ต าบลบ้านบัว อ าเภอเมือง 3) บ้านหนองหัวลิง ต าบลอิสาณ
อ าเภอเมือง และ 4) ชุมชนวัดอิสาณ เขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อ าเภอเมือง ใช้การสัมภาษณ์เจาะลึก
และส ารวจสภาพที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมในชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัย 3 ประการ ได้แก่
1) ศึกษาสภาพแวดล้อมของสถานที่สาธารณะในชุมชน 2) ศึกษาที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุและ 3) เสนอ
แนวทางการจัดสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ ผู้วิจัยพบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ มี
บ้านพักอาศัยที่สร้างมานานกว่า 30 ปี กรรมสิทธิ์เป็นของผู้สูงอายุและสร้างบนที่ดินของตนเอง ส่วน
ใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว วัสดุครึ่งปูนครึ่งไม้จ านวนชั้นเดียวสัดส่วนใกล้เคียงกับบ้านสองชั้น ช่วงกลางวัน
ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่กับพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านหรือใต้ถุนบ้าน นอนตอนกลางคืนที่ชั้นล่างของบ้าน
สภาพบ้านมีความสัมพันธ์กับสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม แต่ยังคงมีบ้านของผู้สูงอายุจ านวน 2 คน
ไม่มีไฟฟ้าใช้ จ านวน 4 คน ไม่มีห้องน้ าห้องส้วมใช้ ส่วนใหญ่ไม่มีการปรับปรุงสภาพเพื่อให้ผู้สูงอายุใช้
สอยได้สะดวก ปลอดภัย สอดคล้องกันทุกพื้นที่ โดยผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่เรียกร้องให้มีการปรับปรุงบ้าน
เพื่อให้ตนเองอยู่อย่างสะดวก ปลอดภัย แต่อาศัยความเคยชิน การปรับตัว และการระมัดระวังตัวเอง
สภาพแวดล้อมในชุมชนยังไม่ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ผู้สูงอายุเท่าที่ควร วัดในชุมชนเป็นสถานที่ที่
ผู้สูงอายุเดินทางไปท ากิจกรรมแล้วเห็นว่ามีสภาพเสี่ยงต่อการหกล้มเนื่องจากพื้นลื่นท าให้เข้าใช้สอยไม่
สะดวก ไม่ปลอดภัย อุปสรรคส าคัญในการปรับปรุง คือ งบประมาณ ดังนั้น การปรับปรุงที่อยู่อาศัย
ของผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยต้องอาศัยองค์กรทางสังคม เช่น องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ส านักงาน
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ องค์กรการกุศล ภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนด าเนินการเพื่อให้
เป็นที่พักอาศัยและสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ รวมทั้งอาศัยคนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมดูแล
ผู้สูงอายุเพื่อก่อให้เกิดสุขภาวะที่ดีร่วมกัน