Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการพัฒนาประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขนาดเล็ก ตามความคิดเห็นของบุคลากรจำแนกตามตัวแปรต้นคือ ตำแหน่ง และเขตพื้นที่การศึกษา และเพื่อพัฒนาประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขนาดเล็ก ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย บุคลากรในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ จำนวน 335 คน ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 17 คน และผู้เชี่ยวชาญงานวิชาการ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง มีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 และแบบสนอบถามเดลฟาย 3 รอบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าที ทดสอบค่าเอฟ ค่ามัธยฐาน และค่าพิสัยระหว่างควอร์ไทล์ ผลการวิจัยที่สำคัญ สรุปได้ดังนี้ 1. การพัฒนาประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ ตามความคิดเห็นของบุคลากรโดยรวม และรายด้านอยู่ในระดับมาก และเขตพื้นที่การศึกษาโดยรวม และรายด้านอยู่ในระดับมาก 2. การพัฒนาประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขนาดเล็ก ตามความคิดเห็นของบุคลากรที่มีตำแหน่งต่างกัน โดยรวมและรายด้านส่วนใหญ่ไม่แตกต่างกัน ยกเว้นด้านการพัฒนาและใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา และด้านการส่งเสริมชุมชนให้มีความเข้มแข็งทางวิชาการ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนด้านการพัฒนาและส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และบุคลากรในเขตพื้นที่การศึกษาต่างกันโดยรวม และรายด้านส่วนใหญ่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนด้านการพัฒนาและส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. การพัฒนาประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขนาดเล็ก ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเทคนิคเดลฟาย พบว่าโดยรวมและรายด้านมีความเป็นไปได้อยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด และสังเคราะห์ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญงานวิชาการ ได้แนวทางสำหรับบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขนาดเล็ก ได้แก่ การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาที่สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การปรับปรุงหลักสูตร สถานศึกษา การสร้างแรงจูงใจครูในการพัฒนาการสอน ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ครูมีความรู้ความเข้าใจในการวัดผลประเมินผลการเรียน มีระบบการส่งนักเรียนทุกระดับชั้น มีระบบการประกันคุณภาพภายใน การนำผลประเมินภายนอกออกมาพัฒนาโรงเรียน มีห้องคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการสอน มีระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในการจัดการเรียนการสอน ครูมีความรู้ความสารถในการใช้สื่อเทคโนโลยี มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียน ใช้เรียนรู้ในท้องถิ่นพัฒนาคุณภาพนักเรียน ส่งเสริมครูทำวิจัยในชั้นเรียน มีเครือข่ายพัฒนาความรู้ การสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชน และส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา