Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับบริหารและ จัดการงานพระศาสนา ของพระสังฆาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ และเพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารและจัดการงานพระศาสนา ของพระสังฆาธิการผู้ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ และผู้ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบล ในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยศึกษาการบริหารและจัดการงานพระศาสนาทั้ง 6 งาน คือ งานการปกครอง งานการสาธารณศึกษา งานการศึกษาสงเคราะห์ งานการเผยแพร่ งานการสาธารณูปการ งานการสาธารณสงเคราะห์ ประชากร ได้แก่ พระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะตำบล ในจังหวัดบุรีรัมย์ ในปี พ.ศ. 2549 จำนวน 196 รูป เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารและจัดการงานพระสาสนา พองพระสังฆาธิการ จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าในการบริหารและจัดการงานพระศาสนาทั้ง 6 งาน ได้แก่ งานการปกครองงานการศาสนศึกษา งานการศึกษาสงเคราะห์ งานการเผยแผ่ งานการสาธารณูปการ และงานการสาธารณสงเคราะห์ อยู่ในระดับมาก 2. เปรียบเทียบระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารและจัดการงานพระศาสนา ของพระสังฆาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะตำบล ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารและจัดการงานพระศาสนา อยู่ในระดับมากทั้ง 6 งาน มีค่าเฉลี่ย 3.641 3. ปัญหาและข้อเสนอแนะ ในการบริหารและจัดการงานพระศาสนา ของพระสังฆาธิการ จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า ปัญหาและข้อเสนอแนะลำดับที่ 1 คือ ขาดการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานของรัฐ คิดเป็นร้อยละ 34.10 รองลงมาคือ ขาดบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา คิดเป็นร้อยละ 22.72 ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารและจัดการงานศาสนาน้อย คิดเป็นร้อยละ 15.90 ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารและจัดการงานศาสนาคิดเป็นร้อยละ 11.36 ขาดสื่อและอุปกรณ์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา คิดเป็นร้อยละ 9.10 และไม่มีอิสระในการบริหารจัดการพระศาสนา คิดเป็นร้อยละ 6.82 ตามลำดับ