การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อการจัดกิจกรรมส่ง
เสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์-จิตใจ ด้านสังคม ด้านสติปัญญา และด้านการเตรียมความพร้อมเข้า
สู่ประชาคมอาเซียน จำแนกตามเพศและอาชีพ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 20 โรงเรียน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random sampling) จำนวน
285 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม ที่มีค่าความเชื่อมั่น .95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อย
ละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที (t-test) และการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว (One Way Anova)
ผลการวิจัยพบว่า ความพึงพอใจของผู้ปกครอง โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน คือ ด้านอารมณ์-จิตใจ
ด้านสังคม ด้านสติปัญญา ด้านการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และด้านร่างกายตามลำดับ ผู้ปกครองที่มีเพศ
ต่างกันมีความพึงพอใจ โดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน ผู้ปกครองที่มีอาชีพต่างกันมีความพึงพอใจ โดยภาพรวมไม่
แตกต่างกัน แต่พบความแตกต่างที่ด้านการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พบว่า ผู้ปกครองที่มีอาชีพรับราชการ
มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมด้านการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนมากกว่าผู้ปกครองที่มีอาชีพรับจ้าง
This research aimed to study and compare
the parents’ satisfaction toward activities enhancing
the physical, emotion, social and intellectual
development of early childhood children, and
their readiness for the ASEAN Community: in terms
of genders and occupations. The samples were
parents of early childhood children enrolled in the
first semester of 2014 academic year in 20 schools
under the jurisdiction of the Bangkok Metropolitan
Administration. The sample size was determined
using the Krejcie and Morgan Table and 285 parents
were gathered via simple random sampling. The
instrument of the study was a Likert-type scale and
had an Alpha Coefficient of 0.95. An analysis of
data was done using percentage, average, standard
deviation, t-test, and one-way analysis of variance.
The findings indicated that, overall, parents were
satisfied with the enhancing activities at a high
level and, by category, their satisfaction level was
also at a high level in each area. These areas were
emotional, social, intelligent, ASEAN community
readiness, and physical respectively. Male and
female parents expressed no difference in their
satisfaction toward the enhancing activities. Parents
with different occupations expressed no difference
in their overall satisfaction toward the enhancing
activities. However, the difference was found in the
readiness for the ASEAN Community. The results
indicated that parents who were civil servants were
more satisfied with the enhancing activities in the
area of readiness for the ASEAN Community than
the parents who were hired-workers.
