การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธี SQ5R 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักศึกษาลาวก่อนและหลังเรียนโดยใช้วิธี SQ5R 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธี SQ5R และ 4) ศึกษาความคงทนในการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธี SQ5R กลุ่มตัวอย่าเป็นนักศึกษาเอกวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 1 จำนวน 25 คน ของวิทยาลัยครูสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาชนลาว ในปีกาศึกษา 2560-2561 ได้มาโดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่ายโดยใช้ห้องเรียนเป็นการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการสอนที่ใช้วิธี SQ5R จำนวน 4 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านเพื่อความเข้าใจ จำนวน 50 ข้อ และแบบทดสอบความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อ SQ5R จำนวน 1 ชุด สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าคะแนนทีที่เป็นอิสระต่อกันผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแผนการสอนโดยใช้วิธี SQ5R ในการเพิ่มพูนการอ่านเพื่อความเข้าใจมีค่าเท่ากับ 84.36/78.24 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 75/75
2. ผลคะแนนเฉลี่ยของสัมฤทธิ์ในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักศึกษาหลังเรียนด้วยวิธี SQ5R สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
3. ความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนรู้การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธี SQ5R อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
4. ไม่พบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยความคงทนในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักศึกษาหลังเรียนโดยใช้วิธี SQ5R นั่นคือ นักศึกษามีความคงทนในการอ่านเพื่อความเข้าใจ
The purposes of this research were 1) to find out the efficiency of the lesson plans using SQ5R method to improve reading comprehension with the criterion set at 75/75, 2) to compare the reading comprehension achievement of Lao EFL college students before and after taught through SQ5R method, 3) to explore students 'satisfaction toward reading comprehension using SQ5R method, and 4) to investigate the retention of the reading comprehension achievement taught by SQ5R method. The samples in this study were 25 first year English major students at Savannakhet Teacher Training College (STTC), Lao PDR, in academic year 2017-2018. They were selected by simple random sampling technique using classrooms as a sampling unit. The research instruments comprised four lesson plans employing the SQ5R method, an achievement test with 50 multiple choice of reading comprehension, and a questionnaire asking the students satisfaction toward SQ5R method. The statistics employed to analyze the data were mean, standard deviation, and dependent samples t-test. The findings were as follows:
1. The efficiency of the lesson plans using SQ5R method to improve reading comprehension reading comprehension was 84. 36/78.24 which was higher than the criterion set at 75/75.
2. The post-test mean score of English reading comprehension achievement of the students after being taught through the SQ5R reading method was higher than the pre-test mean score with statistically significant difference at 0.01 level.
3. The students satisfaction towards the learning of English reading comprehension using the SQ5R method was at a more satisfactory level.
4. There was not different between the retention and those mean scores of English reading comprehension of the students after being taught through the SQ5R method. That means the students have reading comprehension retention.
