ผลการพัฒนาชุดกิจกรรมเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

อมร, เมยมงคล

dc.contributor.advisor	เบญจพร วรรณูปถัมภ์	en_US
dc.contributor.advisor	กระพัน ศรีงาน	en_US
dc.contributor.author	อมร, เมยมงคล
dc.date.accessioned	2018-09-06T03:13:01Z
dc.date.available	2018-09-06T03:13:01Z
dc.date.issued	2561-09-05
dc.identifier.uri	http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/4306
dc.description.abstract	การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1)พัฒนาชุดกิจกรรมเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้ชุดกิจกรรมเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา 3)ศึกษาดัชนีประสิทธิภาพผลของการเรียนด้วยชุดกิจกรรมเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT และ 4)ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคLTกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดเจริญราษฎร์บำรุง อำเภอชุมพวง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชศรีมา เขต 7 จำนวน 1ห้องเรียน จำนวน 20 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย ด้วยการจับฉลากโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มี 4 ชนิด ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 6 ชุด 2)แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาโดยใช้ชุดกิจกรรมด้วยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT จำนวน 6 แผน ใช้เวลาในการจัดการเรียนรู้ 12 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ4ตัวเลือกจำนวน 30ข้อ โดยมีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.40-0.77 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.20-0.69 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.82 และ4)แบบสอบถามความพึงพอใจเป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10ข้อ มีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.729 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงแบนมาตรฐาน E1/E2 และค่า E.I. และทดสอบสมติฐานโดยใช้ Depent Samples t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.48/82.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT หลังการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ0.5 3. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียน ด้วยชุดกิจกรรมเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT มีค่าเท่ากับ 0.50 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้เพิ่มขึ้น 0.50 หรือคิดเป็นร้อยละ 50.00 4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก	en_US
dc.description.sponsorship	The purposes of this research were: 1) to d evelop the important buddhist days activity packages with cooperative learning LT technique for Prathomsuksa 6 students to meet the criteria set 80/80;2) to compare the students' learning achievement before and after learning for Prathomsuksa 6 students by using important buddhist days activity packages; 3) to study the effectiveness index of learning by using important buddhist days activity packages with cooperative learning LT technique; and 4) to study the satisfaction of Prathomsuksa 6 students towards learning by the important buddhist days activity packages with cooperative learning LT technique. The samples of this research consisted of 20 Prathomsuksa 6 students at Watjareonratbumrong school Chum Phuang district, under Nakhonratchasima Primary Educational Service Area Office 7 in the second semester of academic year 2016, selected by simple random sampling using the classrooms as the sampling unit. The research instruments were : 1) 6 important buddhist days activity packages for Prathomsuksa 6 students;2) 6 lessonplans using along with cooperative learning LT technique, in total of 12 hours; 3) a 30 -item achievement test with difficulty between 0.40-0.77, discrimination between 0.20-0.69 and the reliability of 0.82; and 4) 10-item of 5-rating scale satisfaction questionnaire with the reliability of 0.729. The statistics used for data analysis were percentage, mean, standard deviation, E,/E and E.I. The hypothesis was tested by dependent samples t-test. The results of this research were as follows: 1. The efficiency of the the important buddhist days activity packages was at 84.48/82.17 which was higher than the criteria set at 80/80. 2. The learning achievement after learning by using the important buddhist days activity packages with cooperative learning LT was higher than before learning with the statistically significant difference at the level of.05 3. The effectiveness index of learning through the important buddhist days activity packages with cooperative learning LT was 0.50 which indicated that the students' knowledge increased with the value of 0.50 or 50.00 % 4. Prathomsuksa 6 students were satisfied towards learning by the important buddhist days activity packages with cooperative learning LT as a whole was at a high level.	en_US
dc.language.iso	th_TH	en_US
dc.publisher	มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์	en_US
dc.subject	ผลการพัฒนาชุดกิจกรรมเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6	en_US
dc.title	ผลการพัฒนาชุดกิจกรรมเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6	en_US
dc.title.alternative	The Develoment Effects of Activity Packages Entitled “The Important Buddhist Days”by Using Cooperative Learning LT Technique for Prathomsuksa 6 Students	en_US
dc.type	Thesis	en_US
dc.degree.discipline	หลักสูตรและการสอน	en_US
dc.degree.level	ปริญาโท	en_US
dc.degree.name	ครุศาสตรมหาบัณฑิต	en_US