Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหาร โรงเรียนและครูผู้สอนเกี่ยวกับการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง ระดับการศึกษา และขนาดของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 118 คน และครูผู้สอน จำนวน 335 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 453 คน ซึ่งได้มาจากการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางสัดส่วน ของเครจซี่และมอร์แกนแล้วทำการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมีที่ใช้ในงานวิจัย เป็นแบบสอบถามแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะได้แก่ แบบตรวจสอบราการ แบบมาตราส่วน ประมาณค่า 5 ระดับ และแบบคำถามปลายเปิด แบบสอบถามมีค่าอำนาจจำแนกเป็นรายข้อ อยู่ระหว่าง 1.78 – 4.29 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.81 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐาน โดยใช้การทดสอบค่าทีแบบกลุ่มที่เป็นอิสระต่อกันและการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ตามวิธีของเชฟเฟ่ โดยกำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .01 และ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1. การบิหารหลักสูตรและจัดการเรียนการสอนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงของสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอน โดยรามและ รายด้านมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่เฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการจัดการเรียนการสอน รองลงมา คือ ด้านการพัฒนาหลักสูตร ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการติดตามและ ประเมินผลการจัดการศึกษา 2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนเกี่ยวกับการบริหาร หลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของสถานศึกษา จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง โดนรามแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้าน มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 3. การเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนเกี่ยวกับ การบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของ สถาบันศึกษาจำแนกตามระดับการศึกษา พบว่า โดยรามแตกต่างกันอย่างมีในยะสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 เมื่อพิจารราเป็นรายด้านพบว่า พบว่า ด้านการให้ผู้ปกครองและชุมชนเข้ามา มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษามีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านอื่นๆ มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .01 4. การเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนเกี่ยวกับ การบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของ สถานศึกษา จำแนกตามขนาดของโรงเรียน โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการจัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษา มีความเห็นไม่แตกต่างกัน ส่วนด้านอื่นๆ มีความเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 5. ความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริหารหลักสูตรและการจัด การเรียนการสอนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของสถานศึกษาของผู้บริหารโรงเรียน และครูผู้สอนที่มีผู้เสนอแนะจำนวนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ควรมีการบูรณาการหลักสูตร ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับทุกกลุ่มสารการเรียนรู้ สถานศึกษาควรมีการติดตามและ ประเมินผลอย่างต่อเนื่องอย่างน้องทุก ๆ 3เดือน และควรมีการบูรณาการการจัดการเรียนการสอน ในทุกรายวิชา