Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษารูปแบบการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนประถมศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 1 ที่ประสบความสำเร็จและศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนโรงเรียนรัฐบาลและนักเรียนโรงเรียนเอกชน เกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายในการวิจัยจำนวน 2 โรงเรียนคัดเลือกโดยวิธีการการเลือกแบบเจาะจง(Purposive sampling) แยกเป็นโรงเรียนรัฐบาล คือโรงเรียนวัดบ้านกะหาด อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์และโรงเรียนเอกชนคือโรงเรียนมารีอนุสรณ์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เหตุผลที่เลือกโรงเรียนดังกล่าว เพราะมีวิธีการหรือแนวดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนที่ดีเป็นรูปธรรมชัดเจนสามารถนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ดีสำหรับโรงเรียนอื่นๆได้แก่ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 100 คน ได้แก่ครูผู้สอนโรงเรียนละ 10 คน นักเรียนโรงเรียนละ 40 คน เครื่องมือในการวิจัยจำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอนซึ่งเป็นการสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง(Structured Interview) โดยมีค่า IOC = 1.00 และฉบับที่ 2 แบบสอบถามนักเรียนนักเรียนที่มีลักษณะคำถามแบบตรวจสอบรายการ(Checklist) ซึ่งมีค่า t-test ตั้งแต่ 4.194-5.036 มีความเชื่อมั่น 0.879 และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงแบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า โรงเรียนทั้ง 2 ใช้รูปแบบที่ 1 คือโรงเรียนประกอบการเอง โดยมีกิจกรรมและแนวปฏิบัติ ดังนี้ 1. โรงเรียนทั้งสองที่ประสบผลสำเร็จในการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันนั้นมีกิจกรรมการดำเนินงานเหมือนกันดังนี้ 1) มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานที่เป็นปัจจุบัน 2)มีบุคลากรในการดำเนินงานที่เพียงพอ 3) มีแผนปฏิบัติการประจำปีและจัดทำอย่างต่อเนื่อง 4) มีการจัดสรรงบประมาณอาหารกลางวัน 5) นักเรียนมีส่วนร่วม ในกิจกรรมโครงการอาหารกลางวัน 6) มีการบูรณาการกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อโครงการอาหารกลางวัน 7) นำตำหรับอาหารสำหรับเด็กวัยเรียนมาวางแผนการจัดทำรายการอาหารโดยจัดทำเป็นรายสัปดาห์ 8) มีการจัดทำบัญชีและหลักฐานการเงินที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน 9) มีการจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการที่ครบถ้วนและ เป็นปัจจุบัน 10) มีโครงการเกษตรเพื่อสนับสนุนโครงการอาหารกลางวัน 11) มีรูปแบบการประกอบอาหารกลางวันโดยให้ครูและนักเรียนช่วยกันประกอบอาหาร หรือผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมในการประกอบอาหาร 12) มีการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน 13) ได้รับการนิเทศติดตามประเมินผล 14) ได้รับการสนับสนุนด้านวัสดุ อุปกรณ์ หรือวัตถุดิบในการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน 15) มีรูปแบบการบริการอาหารกลางวันของโรงเรียนให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานโดยไม่ต้องจ่ายเงินซึ่งโรงเรียนจัดทำเฉพาะกับข้าวแล้วให้นักเรียนนำข้าวเปล่า จากบ้านมารับประทานร่วมกัน 2. ความคิดเห็นของนักเรียนทั้งสองโรงเรียนเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันพบว่านักเรียนโรงเรียนวัดบ้านกะหาดมีความคิดเห็นต่อการดำเนินโครงการโดยรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า กิจกรรมที่นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากได้แก่ 1) โรงเรียนได้ฝึกให้นักเรียนมีสุขนิสัยที่ดีในการรับประทานอาหาร 2) นักเรียนมีความพึงพอใจต่ออาหารกลางวันที่โรงเรียนจัดให้ 3) โรงเรียนจัดอาหารที่มีคุณค่าถูกหลักโภชนาการบริการแก่นักเรียนทุกวันแต่กิจกรรมที่โรงเรียนจัดให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดประกอบหารกลางวันของโรงเรียนอยู่ในระดับน้อยสุด ส่วนนักเรียนโรงเรียนมารีอนุสรณ์มีความคิดเห็นต่อการดำเนินโครงการโดยรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมที่นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือโรงเรียนจัดอาหารกลางวันให้นักเรียนตั้งแต่เปิดภาคเรียนทุกครั้งโรงเรียนได้ฝึกให้นักเรียนมีสุขนิสัยที่ดีในการรับประทานอาหาร โครงการอาหารกลางวันสามารถแก้ปัญหาการขาดสารอาหารให้นักเรียน ในขณะที่กิจกรรมที่โรงเรียนจัดให้นักเรียนมีส่วน ร่วมในการประกอบอาหารกลางวันของโรงเรียนอยู่ในระดับน้อยสุด