Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาปัญหาการบริหารงานธุรการในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ใน 3 ด้าน คือ ด้านการบริหารงานสารบรรณ ด้านการบริหารงานพัสดุ และด้านการบริหารงานข้อมูลและสารสนเทศ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 140 คน และหัวหน้างานธุรการ จำนวน 140 คน รวมเป็น 280 คน ได้มาจากการสุ่มจากประชากร โดยกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกนได้ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 280 คน แล้วทำการสุ่มหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบข้อมูลเป็นแบบสอบถามมี 3 ลักษณะ คือ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบปลายเปิด ได้ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.7590 สถิตที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที t – test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1. ปัญหาการบริหารงานธุรการในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการบริหารงานสารบรรณ อยู่ในระดับน้อย ส่วนด้านอื่นๆ อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อเรียงลำดับจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงไปหาต่ำได้ดังนี้ ด้านการบริหารงานพัสดุ ด้านการบริหารงานข้อมูลและสารสนเทศ และด้านการบริหารงานสารบรรณ ตามลำดับ 2. เปรียบเทียบปัญหาการบริหารงานธุรการในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการบริหารงานข้อมูลและสารสนเทศ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านอื่นๆไม่แตกต่างกัน 3. เปรียบเทียบปัญหาการบริหารงานธุรการในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์ เขต 3 จำแนกตามขนาดของโรงเรียนที่ปฏิบัติงาน โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการบริหารงานสารบรรณ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านอื่นๆไม่แตกต่างกัน 4. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่นๆ เกี่ยวกับปัญหาการบริหารงานธุรการในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ในแต่ละด้านมีดังต่อไปนี้ ด้านการบริหารงานสารบรรณ ควรสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ด้านการบริหารพัสดุ ควรมีการสำรวจถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้วัสดุครุภัณฑ์ และด้านการบริหารงานข้อมูลและสารสนเทศ ควรมีระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อจัดทำข้อมูลระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์
