Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูที่มีต่อการบริหารจัดการตามหลักการของระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 จำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงานและขนาดของโรงเรียนที่ปฏิบัติงาน ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ปีการศึกษา 2550 กลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มจากประชากร โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan) ได้ครูที่เป็นสุ่มตัวอย่าง จำนวน 341 คน แล้วทำการสุ่มกลุ่มย่อย (Stratified Random Sampling) ตามขนาดของโรงเรียนอย่างเป็นสัดส่วนด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling ) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมา มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 10.588 ถึง 16.634 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .9904 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ Independent Samples t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Analysis of Variance) กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับความคิดเห็นของครูที่มีต่อการบริหารจัดการตามหลักการของระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ทั้งโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2. เปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของครูที่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการตามหลักการของระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ทั้งโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 3. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของครูที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการตามหลักการของระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ทั้งโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 4. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของครูที่มีต่อการบริหารจัดการตามกลักการของระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ที่นำมาบูรณาการให้เข้ากับการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งสี่ด้าน ได้แก่ การบริหารวิชาการ คือ ควรพัฒนาผู้บริหารให้เป็นผู้นำทางวิชาการ มีการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานวิชาการของครู การบริหารงบประมาณ คือ ควรมีการวิเคราะห์นโยบายการศึกษา สภาพสถานศึกษา การจัดทำแผนกลยุทธ์แบบมีส่วนร่วมของบุคคลหลายฝ่ายโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การบริหารงานบุคคลคือ ควรมีแนวทางการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และทักษะการทำงานตามภารกิจอย่างต่อเนื่อง การบริหารทั่วไป คือ ควรมีเจ้าหน้าที่ธุรการทำงานธุรการโดยเฉพาะ เพื่อให้ครูมีการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้