Description:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาสภาพและปัญหาการจัดการเรียนรู้วิชา
ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2
2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับปัญหาการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย จำแนก
ตามประเภทของโรงเรียน 3) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับปัญหาการ
จัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย จำแนกตามประเภทของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่
ครูผู้สอนวิชาภาษาไทยและนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา
และโรงเรียนในสังกัดกรมสามัญศึกษาเดิม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 โดยมีจำนวนครูผู้สอน 95 คน และนักเรียน จำนวน 677 คน
การเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้ค่าความเชื่อมั่น
เท่ากับ .995 ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
และการทดสอบค่าที (t – test แบบ Independent) ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพและปัญหาการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ใน
โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 เป็นดังนี้
1.1 สภาพการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย พบว่าครูผู้สอนวิชาภาษาไทยและ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาและในโรงเรียนสังกัดกรม
สามัญศึกษาเดิม มีความคิดเห็นต่อสภาพการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทยในภาพรวม พบว่ามี
การดำเนินการ อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนผลการวิเคราะห์เป็นรายด้าน พบว่าทุกด้านมีการ
ดำเนินการอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นเดียวกัน ยกเว้นด้านการสอนซ่อมเสริม นักเรียนมีความ
คิดเห็นว่ามีการดำเนินการอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีค่าร้อยละมากที่สุดคือ ด้านบรรยากาศ
ในชั้นเรียน รองลงมาคือด้านกิจกรรมเสริมหลักสูตร1.2 ปัญหาการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย พบว่าครูผู้สอนวิชาภาษาไทย
และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาและกรมสามัญศึกษา
เดิม มีความคิดเห็นต่อปัญหาในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนผลการวิเคราะห์เป็นราย
ด้าน พบว่า ทุกด้านมีความคิดเห็นต่อปัญหาอยู่ในระดับปานกลางเช่นเดียวกัน ยกเว้นด้านการ
เตรียมการสอนที่ครูมีความคิดเห็นต่อปัญหาอยู่ในระดับมากและมีค่าร้อยละมากที่สุด
รองลงมาคือ ด้านการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรและด้านบรรยากาศในชั้นเรียน
2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูในสังกัดกรมสามัญศึกษาเดิมและ
โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย พบว่า
โดยรวมมีความคิดเห็นไม่แตกต่างกันและเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่ามีความคิดเห็นไม่
แตกต่างกันเช่นกัน
3. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของนักเรียนในสังกัดกรมสามัญศึกษาเดิมและ
โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย พบว่า
โดยรวมมีความคิดเห็นไม่แตกต่างกันและเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่ามีความคิดเห็น
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สองด้าน ได้แก่ ด้านการจัดกิจกรรมการ
เรียนการสอนและด้านการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร โดยนักเรียนในโรงเรียนขยายโอกาสทาง
การศึกษามีความคิดเห็นต่อปัญหามากกว่านักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษาเดิม
4. ข้อเสนอแนะ ผู้บริหารโรงเรียนควรให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาการเรียนรู้
วิชาภาษาไทยของโรงเรียน โดยเฉพาะการจัดครูให้ทำการสอนตรงวิชาเอกและลดภาระการ
ทำงานอื่น ที่นอกเหนือการสอน เพื่อให้ครูได้สอนภาษาไทยอย่างเต็มเวลาและเต็มหลักสูตร