Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาอัตมโนทัศน์ และคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคเรื้อน และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอัตมโนทัศน์ที่ใช้ตนเองเป็นเกณฑ์ และใช้ผู้อื่นเป็นเกณฑ์กับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคเรื้อน ประชากรที่ศึกษาได้แก่ผู้ป่วยที่กำลังรักษาในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ และโรงพยาบาลชุมชนอีก 20 แห่งในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 115 ราย เครื่องที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามประกอบการสัมภาษณ์อัตมโนทัศน์ซึ่งผู้วิจัยพัฒนาขึ้นเองและแบบวัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกฉบับย่อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า 1. อัตมโนทัศน์โดยรวม และอัตมโนทัศน์ที่ใช้ตนเองเป็นเกณฑ์ และใช้ผู้อื่นเป็นเกณฑ์ อยู่ในเกณฑ์ด้านบวก 2. คุณภาพชีวิตโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ 76.5) คุณภาพชีวิตที่พบต่ำมาก ที่สุดคือคุณภาพชีวิตด้านสังคม (ร้อยละ 13.9) 3. อัตมโนทัศน์ที่ใช้ตนเองเป็นเกณฑ์ และใช้ผู้อื่นเป็นเกณฑ์มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ คุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคเรื้อนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4. จากการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณระหว่างอัตมโนทัศน์ที่ใช้ตนเองเป็นเกณฑ์และใช้ ผู้อื่นเป็นเกณฑ์ กับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคเรื้อน พบว่าอัตมโนทัศน์ที่ใช้ตนเองเป็นเกณฑ์และอัตมโนทัศน์ที่ใช้ผู้อื่นเป็นเกณฑ์ มีผลต่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคเรื้อนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 และ .01 ตามลำดับ