Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนที่มีต่อการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ผู้บริหารโรงเรียน และครูผู้สอนโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 โดยการสุ่มตามระดับชั้นอย่างมีสัดส่วน (Proportional Stratified Random Sampling) หลังจากนั้นจะทำการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ได้กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารโรงเรียน 106 คนและครูผู้สอนจำนวน 244 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ 0.98456สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมติฐานโดยใช้ t-test แบบOne Sample t-test และแบบ Independent Sample –t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way Analysis of Variance) แล้วเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ตามวิธีของ เชพเฟ่ (Scheffe’s Method ) ผลการวิจัยพบว่า 1. ครูผู้สอนและผู้บริหารโรงเรียนมีความคิดเห็นต่อบทบาทผู้บริหารโรงเรียนที่มีต่อการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง 2. ครูผู้สอนและผู้บริหารโรงเรียนมีความคิดเห็นต่อบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนที่มีต่อการทำวิจัยในชั้นเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 3. ครูผู้สอนและผู้บริหารโรงเรียน ที่มีประสบการณ์ในการอบรมวิจัย และไม่เคยผ่านการอบรมวิจัย มีความคิดเห็นต่อบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนที่มีต่อการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน ไม่แตกต่างกัน 4. ครูผู้สอนและผู้บริหารโรงเรียนมีความคิดเห็นว่าผู้บริหารโรงเรียนที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ และขนาดใหญ่พิเศษ มีความคิดเห็นต่อบทบาทการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จในงานวิจัย และด้านการมีความรับผิดชอบต่อครูผู้ทำวิจัยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05