Abstract:
การวิจัยนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อ ศึกษาระดับการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ศึกษาปัญหาการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษาพื้นฐาน และเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 260 คน จากการสุ่มจำนวนประชากรโดยกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง จากตารางของเครจซี่และมอร์แกน แล้วทำการสุ่มแบ่งชั้นตามระดับชั้นอย่างมีสัดส่วน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบสัมภาษณ์ชนิดมีโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การวิเคราะห์เนื้อหา การวิจัยพบว่า 1. ระดับการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนในอำเภอหนองกี่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 พบว่า ระดับการมีส่วนร่วมโดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อเรียงลำดับลำดับค่าเฉลี่ยจากศุงสุดไปหาต่ำสุด ได้แก่ ด้านการบริหารจัดการเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับชุมชน ด้านการกำหนดทิศทางการศึกษา/พันธกิจ/เป้าหมาย ด้านหลักสูตรการสอน ด้านการบริหารจัดการเกี่ยวกับอาคารสถานที่ ด้านการพัฒนาและบริหารบุคลากร ด้านการจัดสรรงบประมาณและพัสดุ ด้านโครงสร้างการบริหารและส่งเสริมการปฎิบัติงานครู ด้านการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการส่งเสริมความรู้และประสบการณ์ ด้านการจัดทำเกณฑ์/มาตรฐานต่างๆในโรงเรียน 2. ปัญหาการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนในอำเภอหนองกี่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ประกอบด้วยปัญหา 5 ด้าน คือ ด้านหลักสูตรการสอน ด้านโครงสร้างการบริหารและส่งเสริมการปฎิบัติงานครู ด้านการจัดสรรงบประมาณและพัสดุ ด้านการบริหารจัดการเกี่ยวกับอาคารสถานที่ ด้านการพัฒนาและบริหารบุคลากร 3. แนวทางในการแก้ไขปัญหา มีดังนี้ โรงเรียนควรดำเนินการให่ได้ตามแนวทางหรือนโยบายที่กำหนดไว้ เพราะการดำเนินงานในแต่ละปีการศึกษาที่ผ่านมา โรงเรียนยังไม่สามารถดำเนินกิจกรรมตามนโยบายที่กำหนดไว้ไว้ ประการสำคัญคือ ครูควรทุ่มเทด้านการสอนนักเรียนมากกว่าที่ปฎิบัติอยู่ในปัจจุบัน เพราะคณะกรรมการสถานศึกษาสังเกตจากพฤติกรรมและพัฒนาการของนักเรียนที่มีความบกพร่องในหลายด้าน ทั้งด้านวิชาการและด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ที่ยังได้รับการพัฒนาไม่เต็มที่จากครูผู้สอน ดังนั้น โรงเรียนควรสนับสนุนด้านการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง