Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งเพื่อศึกษาถึงความคิดเห็นของข้าราชการศาลปกครองนครราชสีมาต่อการพัฒนาไปสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ใน 5องประกอบ คือ พลวัตกรเรียนรู้ การปรับเปลี่ยนองค์การ การเพิ่มอำนาจแก่บุคลากร การจัดการความรู้ การนำเทคโนโลยีมาใช้ กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชากร ข้าราชการศาลปกครองนครราชสีมา จำนวน 60 คน เครื่องมือที่ใช้ในการการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมี 3 ลักษณะ คือ แบบตรวจสอบรายการ ( Check List) แบบมาตรตราส่วนส่วนประมาณค่า( Rating Scale) และแบบปลายเปิด ( Open Form) มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .08337 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1. ความคิดเห็นของข้าราชการศาลปกครองนครราชสีมาต่อการพัฒนาไปสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ใน 5 องค์ประกอบ ทั้งโดยภาพรวม มีความคิดเห็นอยู่ในระดับปลานกลางเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่ 2 และ 5 อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านอื่นๆ อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อเรียงจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดไประดับต่ำสุดได้ดังนี้ ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือด้านการปรับเปลี่ยนองค์กร รองลงมา คือ ด้านการนำเทคโนโลยีไปใช้ ด้านพลวัตการเรียนรู้ด้านการจัดการความรู้ และด้านการเพิ่มอำนาจแก่บุคลากร ตามลำดับ 2. ข้อเสนอแนะที่มีต่อการพัฒนาไปสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของข้าราชการสาลปกครองนครราชสีมา มีดังนี้ ด้านพลวัตการเรียนรู้ มีค่าร้อยละสูงสุด คือ ควรจัดให้มีการอบรมหรือสัมมนาหลักสูตรต่างๆ เพื่อพัฒนาในเรื่องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การ ทำงานเป็นทีม และพัฒนาระบบงาน โดยการสับเปลี่ยนงานในหน้าที่เพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้งานทุกด้าน และทำให้เกิดความเชี่ยวชาญเฉพาะแก่บุคลากรตามสายงาน รองลงมาคือด้านการจัดการความรู้ คือ ควรพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ทางวิชาการจากแหล่งภายนอก เพื่อนำมาใช้ในการปฏิบัติงาน และสนับสนุนให้บุคลากรได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น โดยการให้ทุนการศึกษา และด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้ คือ ระบบเทคโนโลยีที่นำมาใช้ควรเรียนรู้ง่าย เพื่อสะดวกต่อการทำงาน