Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาสภาพการนิเทศภายในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 และเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับสภาพการนิเทศภายในโรงเรียนจำแนกตามสถานภาพตำแหน่งและขนาดของโรงเรียนกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารและครู โดยกำหนดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครซี่และมอร์แกน ได้จำนวนผู้บริหาร 136 คน และครูจำนวน 327 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 463 คน แล้วทำการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลมี 3 ลักษณะคือ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบปลายเปิด มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่า t แบบ Inpenden Samples และความแปรปรวนทางเดียว หรือ F-test ถ้าพบความแตกต่างนำมาทดสอบเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ ผลการวิจัยพบว่า 1.ความคิดเห็นของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับสภาพการนิเทศภายในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 โดยรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก 2.การเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับสภาพการนิเทศภายในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 จำแนกตามสภาพตำแหน่งโดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านการปฏิบัติการนิเทศ และด้านการประเมินผลการนิเทศแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านสภาพการนิเทศและด้านการวางแผนการนิเทศไม่แตกต่างกัน 3.การเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับสภาพการนิเทศภายในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 จำแนกตามขนาดของโรงเรียนโดยรวมและรายด้านทุกด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4.ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับสภาพการนิเทศภายในโรงเรียน ที่มีจำนวนมากที่สุดคือควรให้ครูผู้สอนเป็นคณะทำงานในการศึกษาสภาพการนิเทศและความต้องการของโรงเรียน รองลงมาคือควรแต่งตั้งคณะทำงานจากครูผู้สอนในโรงเรียนให้มีส่วนร่วมในการวางแผนและจัดทำปฏิทินการปฏิบัติงานจะได้เป็นแบบแผนงานของโรงเรียนที่ชัดเจน การกำหนดวันเวลาในการนิเทศและปฏิบัติตามปฏิทิน มีการประเมินความก้าวหน้าในการสอนของครูที่เกิดจากการนิเทศอย่างต่อเนื่องและเป็นปัจจุบัน และควรเปิดโอกาสให้ครูได้ประเมินผลการปฏิบัติงานของตนเองตามลำดับ