Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา อำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ 4 ด้าน คือ (1) การวางแผน (2) การปฏิบัติตามแผน (3) การตรวจสอบ (4) การปรับปรุง จำแนกตามตำแหน่ง ประสบการณ์ในการทำงานและขนาดของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จำนวน 270 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ ผลการวิจัยพบว่า ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน ที่มีต่อการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา อำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ผู้บริหารสถานศึกษามีความคิดเห็นต่อการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ ในโรงเรียนประถมศึกษา อำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก และด้านที่ควรปรับปรุงแก้ไข คือ การตรวจสอบ ส่วนครูผู้สอน มีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมาก 2 ด้าน และด้านที่ควรปรับปรุงแก้ไข คือ การปฏิบัติตามแผน การตรวจสอบ ผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานสูงกว่า 10 ปี มีค่าเฉลี่ยของความคิดเห็รอยู่ในระดับมาก รองลงมาคือผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานต่ำกว่า 5 ปร และผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงาน 5-10 ปี มีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างในโรงเรียนขนาดใหญ่ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ส่วนโรงเรียนขนาดเล็กและโรงเรียนขนาดกลาง มีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง ประเด็นสำคัญที่ได้จากการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าควรมีการกำหนดนโยบายหรือจัดทำแผนในการปฏิบัติงานให้มากที่สุดควรส่งเสริมและพัฒนาว่าควรมีการกำหนดนโยบายหรือจัดทำแผนในการปฏิบัติงานด้านสารสนเทศมากที่สุด ควรให้ความสำคัญในการตรวจสอบความสมบูรณ์ ถูกต้องของข้อมูลสารสนเทศมากที่สุดและควรปรับปรุงระบบสารสนเทศให้มีความสะดวกรวดเร็วต่อการสืบค้นข้อมูลมากที่สุด ข้อเสนอแนะจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารและครูผู้สอนในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ดังนี้ 1. โรงเรียนควรสร้างวิสัยทัศน์ เป้าหมาย พันธกิจ กำหนดเป้าหมาย สร้างความรู้ ความเข้าใจ และร่วมมือกันวางแผนดำเนินการจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างจริงจังเพื่อให้การพัฒนาการศึกษาประสบความสำเร็จ และความสร้างความตระหนักถึงความจำเป็นเป้นการใช้ ข้อมูลสารสนเทศให้เกิดขึ้นกับบุคลากรในโรงเรียน 2. หน่วยงานต้นสังกัดควรสนับสนุนงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์เพื่อให้โรงเรียนใช้ดำเนินการ ควรพัฒนาบุคลากรในระดับโรงเรียนเพื่อให้มีความรู้ความสามารถและมีประสิทธิภาพในการจัดการระบบสารสนเทศ เช่นการอบรมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาดูงาน การจัดทำเอกสารคู่มือหรือสื่อพัฒนาความรู้อื่น ๆ ที่เหมาะสม โดยผู้บริหารควรกำกับและนิเทศติดตามการกำหนดเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาใช้ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน