Abstract:
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพการดำเนินการและปัญหาด้านการจัด
กระบวนการเรียนรู้ 2) เพื่อศึกษาสภาพความร่วมมือในการดำเนินการด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้
และ 3) เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้เป็น
ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 12 คน รองผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 3 คน และครู จำนวน 140 คน รวม
ทั้งสิ้น 155 คน เก็บข้อมูลโดยใชแ้ บบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรง มีค่าความเชื่อมั่น
0.923 และการใช้แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า
ผู้บริหารโรงเรียนและครูมีความคิดเห็นต่อสภาพการดำเนินการและปัญหาด้านการจัด
กระบวนการเรียนรู้ ใน 6 ด้าน มีสภาพการดำเนินการอยู่ในระดับปานกลาง โดยเรียงลำดับสภาพการ
ดำเนินการ ด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้ดังนี้ อันดับ 1 ด้านการประสานร่วมมือพัฒนางานวิชาการ
ของกลุ่มเครือข่าย อันดับ 2 ด้านนโยบายและแนวทางการพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ของ
โรงเรียน อันดับ 3 ด้านความรู้และทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู อันดับ 4 ด้านการส่งเสริม
และพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา อันดับ 5 ด้านการประเมินผล
นิเทศและติดตามการจัดกระบวนการเรียนรู้ และอันดับ 6 ด้านสื่อ สิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการจัด
กระบวนการเรียนรู้ ส่วนสภาพปัญหาด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ พบว่าทุกด้านมีปัญหาอยู่ในระดับ
ปานกลาง โดยเรียงลำดับ ดังนี้ อันดับ 1 ด้านการประเมิน นิเทศและติดตามการจัดกระบวนการเรียนรู้
อันดับ 2 ด้านการส่งเสริมและพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา อันดับ
3 ด้านนโยบายและแนวทางการพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ของโรงเรียน อันดับ 4 ด้านสื่อ
สิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการจัดกระบวนการเรียนรู้ อันดับ 5ด้านความรู้และทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู และอันดับ 6 ด้านการประสานร่วมมือพัฒนา
งานวิชาการของกลุ่มเครือข่าย
การศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูต่อสภาพความร่วมมือในการดำเนินการ
ด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ ในโรงเรียนกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาพลับพลาชัย 2 พบว่า
ผู้บริหารโรงเรียนให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับด้านการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน การ
แข่งขันความเป็นเลิศทางวิชาการ และการจัดนิทรรศการผลงานทางวิชาการของกลุ่มเครือข่าย มีสภาพ
ความร่วมมือในการดำเนินการสูงสุด ส่วนครู ส่วนใหญ่ให้ความคิดเห็นว่า สภาพความร่วมมือด้านการ
แข่งขันความเป็นเลิศทางวิชาการ และการจัดนิทรรศการผลงานทางวิชาการของกลุ่มเครือข่าย มี
ค่าเฉลี่ยสูงสุด
จากการศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูที่มีต่อสภาพการดำเนินการและ
ปัญหาด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยใช้แบบสัมภาษณ์ พบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดกระบวนการ
เรียนรู้มากที่สุด คือ ครู ได้แก่ ครูสอนไม่ตรงวิชาเอก ครูไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน และครูขาด
ทักษะการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ครูต้องมีวิธีการในการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย
สามารถทำให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ กระตือรือร้นในการเรียนรู้ มีความเชี่ยวชาญในวิชาที่สอน และครู
ควรได้รับการอบรมพัฒนาด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ
ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่ได้จากการวิจัย คือ ผู้บริหารโรงเรียนและครูส่วนใหญ่เห็นว่า
ครูควรจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ รองลงมา คือ สำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาควรส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรครูด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
โรงเรียนควรสนับสนุน วัสดุ อุปกรณ์ สื่อที่ส่งเสริมการจัดกระบวนการเรียนรู้ และการนิเทศติดตาม
การดำเนินงานด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ควรปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง