Description:
บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่ งหมาย เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูวิชาการ
กลุ่มตัวอย ่างเป็นผู้บริหารและครูวิชาการในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2
จำนวน 288 คน ซึ่งได้มาโดยกำหนดขนาดของกลุ่ มตัวอย ่างตามตารางของเครจซี่และมอร์แกน แล์วทำการสุ่ ม
กลุ่ มตัวอย ่างตามระดับชั้นอย่ างมีสัดส่ วน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม มี 3 ลักษณะคือ
แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส ่วนประมาณค่ า 5 ระดับ และแบบปลายเปิด มีค ่าความเชื่อมั่นเท ่ากับ 0.97
สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่ าร้อยละ ค่ าเฉลี่ย ค ่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่ าที การทดสอบ
ค าเอฟ และการทดสอบเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ความคิดเห็นของผู้บริหารและครูวิชาการเกี่ยวกับสภาพการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 โดยรวมและรายด้าน อยู่ ในระดับมาก โดยด้านที่มี
ค ่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา รองลงมาคือ ด้านการวัดผล
ประเมินผลและเทียบโอนผลการเรียน ส ่วนด้านที่มีค ่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านการพัฒนาแหล่ งการเรียนรู้
2. ผู้บริหารและครูวิชาการมีความคิดเห็นต ่อสภาพการบริหารงานวิชาการ โดยรวมไม่ แตกต ่างกัน
เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่ า ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ด้านการวิจัย เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
และด้านการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา แตกต่ างกันอย่ างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผู้บริหารและครูวิชาการที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนที่มีขนาดต ่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพ
การบริหารงานวิชาการในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 แตกต่ างกัน
อย่ างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่ า ด้านการวัดผลประเมินผลและเทียบโอน
ผลการเรียนไม ่แตกต ่างกัน ส วนด้านอื่น ๆ แตกต ่างกันอย ่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหารและครูวิชาการเกี่ยวกับสภาพการบริหารงานวิชาการ
ในโรงเรียน ที่มีจำนวนมากที่สุด คือ ควรพัฒนาหลักสูตรให้มีความเหมาะสมกับสภาพบริบทของชุมชนโดยประสาน
ความร ่วมมือกับชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น รองลงมาคือ ควรทำความเข้าใจระเบียบการวัดผลและประเมินผล
ที่ถูกต้องและประเมินตามสภาพจริง และควรพัฒนาแหล่ งเรียนรู้ทั้งภายในและนอกสถานศึกษาอย ่างต่ อเนื่อง
มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และใช้แหล่ งเรียนรู้ร ่วมกันระหว่ างโรงเรียนกับชุมชน