Description:
บทคัดย่อการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นสมรรถนะศึกษานิเทศก ์
ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ตรวจสอบความตรงเชิงโครงสร้างของสมรรถนะศึกษานิเทศก์
ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเพื่อศึกษาอิทธิพลทางตรง อิทธิพลทางอ้อม และอิทธิผล
รวมองสมรรถนะศึกษานิเทศก์ ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน การวิจัยครั้งนี้แบบเป็น 2 ระยะ
จึงมีกลุ่มตัวอย่างแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ระยะที่ 1 เป็นการสัมภาษณ์ เพื่อกำหนดกรอบของรูปแบบความสัมพันธ์
โครงสร้างของสมรรถนะศึกษานิเทศก ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
ผู้วิจัยจึงใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาศึกษานิเทศก์ ที่มีวิทยฐานะในระดับ
เชี่ยวชาญ และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นผู็นำในการนิเทศการศึกษามาเป็นผู้ให้ข้อมูลสำหรับการสัมภาษณ์ เชิงลึก
จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห ์ข้อมูล การวิจัยระยะที่ 1 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เป็นที่ใช้
สำหรับการสัมภาษณ เชิงลึก เป็นแบบสัมภาษณ ์แบบมีโครงสร้าง การวิเคราะห์ ข้อมูลของการวิจัยเป็นข้อมูลเชิง
คุณภาพที่ไม่ต้องอาศัยสถิติตัวเลข แต่อาศัยข้อมูลสาระสนเทศ รายละเอียด ด้านสมรรถนะศึกษานิเทศก ที่ได้จาก
การสัมภาษณ ผู้วิจัยได้นำข้อคิดเห็น คำตอบ วิเคราะห์ ข้อมูลโดยการใช้วิธีการวิเคราะห เชิงเนื้อหา ด้วยการหาข้อสรุป
ตามประเด็นคำถาม อธิบายความเชิงพรรณนา แล้วจัดหมวดตามหัวข้อการวิจัย และในระยะที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง
ได้แก่โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วประเทศ ในปีการศึกษา 2557
จำนวน 460 โรง โดยมีผู้บริหารสถานศึกษาหรือข้าราชการครูที่ปฏิบัติการสอนในโรงเรียนประถมศึกษาเป็นผู้ตอบ
แบบสอบถาม ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน ในการวิจัยระยะนี้เครื่องมือที่ใช้ในเก็บรวบรวมข้อมูลเป็น
แบบสอบถามมีลักษณะเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประเมินค่า 5 ระดับ ใช้เก็บข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่างเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามตามแนวคิดทฤษฎีที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น การวิเคราะห ์มูลโดยวิธีการวิเคราะห์
องค์ ประกอบเชิงยืนยัน เพื่อศึกษาว่ารูปแบบการวัดมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยสถิติที่ใช้ใน
การทดสอบสมมติฐานเพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบความสัมพันธ โครงสร้างตามทฤษฎีกับข้อมูล
เชิงประจักษ จากกลุ่มตัวอย่าง ผลการวิเคราะห์ จะนำเสนอในรูปการวิเคราะห ์ความสัมพันธ ์เชิงเส้นระหว่างตัวแปร
ต่างๆ ค่าสถิติที่สำคัญที่ใช้ในการตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบสมมติฐานการวิจัยกับข้อมูลเชิงประจักษ
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการตรวจสอบความตรงเชิงโครงสร้างของรูปแบบความสัมพันธ ์โครงสร้างเชิงเส้นของสมรรถนะ
ศึกษานิเทศก ที่ส่งผลต้่อประสิทธิผลสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน1.1 ผลการวิเคราะห์ ข้อมูลเบื้องต้นของผู้ตอบแบบสอบถาม ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็น
เพศหญิง (ร้อยละ 75.20) โดยมี อายุ 35-44 ป; มากที่สุด (ร้อยละ 39.40) ส่วนใหญ(สำเร็จการศึกษาระดับปริญญา
ตรี (ร้อยละ 81.50) และเป็นครูผู้สอน (ร้อยละ 82.00) ซึ่งส่วนใหญ่มีประสบการณ ในการทำงาน 5-10 ป;
(ร้อยละ 40.40)
1.2 ผลการวิเคราะห ์ค่าอิทธิพลตัวแปรองค ประกอบสมรรถนะศึกษานิเทศก์ ที่ส่งผลต่อ
ประสิทธิผลสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
2 จากผลการวิเคราะห์ ข้อมูลสมการโครงสร้างเชิงเส้นของสมรรถนะสมรรถนะศึกษานิเทศก ์ที่ส่งผล
ต่อประสิทธิผลสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถอธิบายได้ดังนี้
2.1 ตัวแปรอิทธิพลทางตรงต่อประสิทธิผลของโรงเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ มีรายละเอียด
ดังนี้
1) สมรรถนะการปฏิบัติงานหรือเฉพาะทางมีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพล = 1.88
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2) สมรรถนะส่วนบุคคลมีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพล = -1.09 เป-นอิทธิพลทางลบ
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.2 ตัวแปรที่มีอิทธิพลทางอ้อมต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติที่ระดับ .05 มีดังต่อไปนี้
2.2.1 สมรรถนะการปฏิบัติงานหรือเฉพาะทางมีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพลทางอ้อม
ต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน = 2.35 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน = 2.35 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.2.2 สมรรถนะส่วนบุคคลมีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพลทางอ้อมต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐาน = 1.08 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05