Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคาดหวังของครูที่มีต่อคุณลักษณะของผู้บริหารสถานศึกษา ตามมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 โดยจำแนกตามเพศ ประสบการณ์ทำงานและขนาดโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างจำนวน 317 คน โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางสำเร็จรูปของเครจซี่ และมอร์แกน แล้วทำการสุ่มแบบแบ่งชั้นอย่างเป็นสัดส่วน เครื่องที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามจำนวน 3 ตอนมีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับและแบบสอบถามปลายเปิด ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 2.02-5.98 และมีค่าความเชื่อมั่น .9520 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมติฐานโดยใช้ค่าที (t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวเมื่อพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จึงทำการทดสอบรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1.ความคาดหวังของครูที่มีต่อลักษณะของผู้บริหารสถานศึกษา ตามมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 26 โดยรวมอยู่ในระดับมากโยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านคุณลักษณะตามมาตรฐานการปฏิบัติตอนซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาตามลำดับคือ ด้านคุณลักษณะตามมาตรฐานการปฏิบัติงานและด้วนคุณลักษณะตามมาตาฐานความรู้และประสบการวิชาชีพซึ่ง อยู่ในระดับมาก 2.การเปรียบเทียบความคาดหวังของครุที่มีต่อคุณลักษณะของผู้บริหารสถานศึกษาตามมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 จำแนกตามเพศโดยรวมไม่แตกต่างกันเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านคุณลักษณะตามมาตรฐานการปฏิบัติงานและด้านคุณลักษณะตามมาตรฐานการปฏิบัติตนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.การเปรียบเทียบความคาดหวังของครุที่มีต่อคุณลักษณะของผู้บริหารสถานศึกษาตามมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 จำแนกตามประสบการณ์ทำงานโดยรวมไม่แตกต่างกันเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านคุณลักษณะตามมาตรฐานการปฏิบัติตน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4.การเปรียบเทียบความคาดหวังของครุที่มีต่อคุณลักษณะของผู้บริหารสถานศึกษาตามมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 26 จำแนกตามขยาดโรงเรียน โดยรวมไม่แตกต่างกันเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านคุณลักษณะตามมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพและด้านคุณลักษณะตามมาตรฐานการปฏิบัติตนแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05