Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพจัดกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ ตามทัศนะของผู้บริหารและครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 ทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านการบริหารกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ในโรงเรียน ด้านการพัฒนาบุคลากร ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่และด้านหลักสูตรกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ จำแนกตามตำแหน่ง วุฒิทางลูกเสือ ประสบการณ์การทำงานและขนาดของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์เขต2 จำนวน 315 คนที่ได้จากการสุ่มโดยการกำหนดขนาดของตารางสำเร็จรูปของเครจซีและมอร์แกน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมี 3 ตอนคือ แบบเลือกตอบ แบบมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับและแบบปลายเปิด แบบสอบถามมีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 1.91-8.26 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ .9793 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาจรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่า t-test Independent การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (Ome-Way Anaslysis of Variance ) และเปรียบเทียบรายคู่โดยใช้วิธีของเชฟเฟ ( Scheffe Method ) กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .050ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพการจัดกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ตามทัศนะของผู้บริหารและครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าผู้บริหารมีทัศนะอยู่ในระดับมาก ส่วนครูมีทัศนะอยู่ในระดับปานกลาง
2. ผลการเปรียบเทียบสภาพการจัดกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ตามทัศนะของผู้บริหารและครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 จำแนกตารมวุฒิทางลูกเสือ และประสบการณ์การทำงาน พบว่ามีการปฏิบัติไม่แตกต่าง
3. ข้อเสนอแนะอื่นๆด้านการบริหารกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่มีดังนี้โรงเรียนขาดบุคลากรที่มีวุฒิทางลูกเสือทำให้ไม่มีความรู้ในการจัดกิจกรรม ขาดการางแผนงานควรมีการจัดประชุมชี้แจง จัดทำโครงการสอนให้เป็นระบบ และโรงเรียนขาดห้องเรียนในการจัดกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ ด้านการพัฒนาบุคลากร บุคลากรขาดความรู้ความเข้าใจจึงไม่อยากเข้ารับการฝึกอบบรมเท่าที่ควร และบุคลากรไม่มีความรู้ด้านสอนกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ ด้านการจัดกิจรรมการเรียนการสอนลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ พบว่า นักเรียนขาดอุปกรณ์เครื่องแบบลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ที่ครบถ้วน ขาดอุปกรณ์การฝึกและสถานที่ที่เหมาะสมในการจัดกิจกรรม ด้านหลักสูตรการจัดกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ ควรมีคู่มือและเอกสารประกอบหลักสูตรอย่างเพียงพอเพื่อให้ผู้กำกับได้ศึกษาและนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่และควรมีการวัดและประเมินผลทั้งทางทฤษฎีและภาคปฏิบัติควบคู่กันไป
.