Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนนิทานพื้นบ้านพัฒนาทักษะทางภาษา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะทางภาษาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนนิทานพื้นบ้าน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนนิทานพื้นบ้านพัฒนาทักษะทางภาษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านคูบัว สำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 24 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย ด้วยการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย เอกสารประกอบการเรียนนิทานพื้นบ้าน พัฒนาทักษะทางภาษา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 8 เล่ม แบบทดสอบวัดทักษะทางภาษา ด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน จำนวน 40 ข้อ ซึ่งเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก มีค่าความยากตั้งแต่ 0.28 ถึง 0.78 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.28 ถึง 1.00 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.5298 แผนการจัดประสบการณ์ด้วยเอกสารประกอบการเรียนนิทานพื้นบ้านพัฒนาทักษะทางภาษา จำนวน 8 แผน และแบบสอบถามความพึงพอใจเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วย Dependent Samples t – test ผลการวิจัยพบว่า 1. เอกสารประกอบการเรียนนิทานพื้นบ้าน พัฒนาทักษะทางภาษา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.19/83.23 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 หลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนนิทานพื้นบ้าน พัฒนาทักษะทางภาษา สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. ความพึงพอใจของเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนนิทานพื้นบ้าน พัฒนาทักษะทางภาษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด