Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนสะกดคำยาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80%80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและ หลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนสะกด คำยาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนสะกดคำยาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและสะกดคำยาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านช่อผกา อำเภอชำนิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 รวม /22 คนซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) รูปแบบการการวิจัย เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบกลุ่มเดียว มีการทดสอบก่อนและ หลังเรียน ( One Group Pre-test Post-test Design) เครื่องมือที่ใช้ในวิจัย ได้แก่ 1) แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านการเขียนสะกดคำยาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 10 ชุด 2) แผนการจัด การเรียนรู้จำนวน 10 แผน 3 ) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อใช้วัดความสามารถใน การอ่านและการเขียนสะกดคำยาก เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่ง ผ่านการหาคุณภาพของข้อสอบได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.90 และ 4) แบบสอบถาม ความพึ่งพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียนสะกดคำยากเป็นแบบประมาณค่า ( Rating Scales ) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ใน การวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ประสิทธิภาพการบวนการ ประสิทธิภาพผลลัพธ์ ดัชนีประสิทธิผล และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียน สะกดคำยาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ ( E/E ) เท่ากับ 93.03/88.30 ซึ่งสูงกว่า เกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างมีนัยสำคัญที่ .01 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนสะกดคำยาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่า ก่อนการใช้แบบฝึกเสริมทักษะอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนสะกดคำยาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 0.7626 ( E.I. ) แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นคิดเป็น ร้อยละ 76.26 4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนสะกดคำยาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมในระดับมากที่สุด