Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1)เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูปเรื่องความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมอเทคนค STAD สำหรับนักเรียมชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์80/80 2)เพื่อเปรียบเทียบผลลัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียน ด้วยบททเรียนสำเร็จรูป เรื่องความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3)เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่องความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้การเรียนเแบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ 4) เพื่อศึกษาความพงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียน สำเร็จรูป เรื่องความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชันประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวออย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก โรงเรียนบ้านฝ้าย อำเภอหนองหงส์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 3 ภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2556 จำนวน20 คนได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย โดยใช้ห้องเรียมเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้'สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 เล่ม 5 เรื่อง แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคSTAD จำนวน 5 แผน เวลา 10 ชั้วโมง แบบทดสอบรัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนพจำแนก ตั้งแต่ 0.45 ถึง 0.80 และค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.91 และแนบสอบถามความพึงพอใจจำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก มีค่าตั้งแต่ 0.45 ถึง 0.81 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.92 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ, ค่าเฉลย, ส่วนเที่ยงเบนมาตรฐาน E1 E2,E.I. และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าสถิติ Dependent Samples t-test ผลการว่จัขพบว่า 1. บทเรียนสำเร็รูป เรื่องความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนสุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2ที่มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.20/83.67 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่องความปลอดภัยในชีวิต โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระตับ .01 3. นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่องความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมรอเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มิค่าดัชนีประสิทธิพล เท่ากับ 0.7192 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนสูงขึ้นร้อยละ 71.92 4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูปเรื่องความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมรอเทคนิค STAD โดยรวมและเป็นรายด้านทุกด้านอยู่ในระตับมากที่สุด