Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษด้านความเข้าใจในการอ่านก่อนเรียนและหลังเรียน และความคงทนในการจำของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้กลวิธีการอสอนแบบ PQ4R กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 50 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนบ้านหนองโดนประสาวิทย์ อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยการวิจัยในครั้งนี้เป้นการวิจัยเชิงทดลอง มีรูปแบบการวิจัยเป็นการทดลองกลุ่มเดียว ดำเนินการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One group pretest – posttest design) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการสอนแบบ PQ4R จำนวน 9 แผน แบบทดสอบวัดความเข้าใจสนการอ่านภาษาอังกฤษ และแบบทดสอบวัดความคงทนในการจำ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-test (t-test Dependent Sample) ผลการวิจัยพบว่า 1. นักเรียนที่เรียนโดยใช้กลวิธีการสอนแบบ PQ4R มีผลสัมฤทธิ์ความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เพิ่มค่าเฉลี่ยร้อยละ 28.93 อย่างน้อยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้กลวิธีการสอนแบบ PQ4R เพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ มีความคงทนในการจำไม่แตกต่างกัน ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะเพื่อการนำไปใช้ 1.1 ผู้สอนควรมีการปฐมนิเทศนักเรียนให้มีความเข้าใจในการใช้หลวิธีการสอนแบบ PQ4R 1.2 ผู้สอนควรเลือกเนื้อหาของบทอ่านให้เหมาะสมกับระดับความรู้ของนักเรียน ความสนใจ หรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของนักเรียนและเนื้อหาที่นักเรียนมีความรู้เดิมอยู่บ้างเพื่อที่จะทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข 1.3 ผู้สอนควรกำหนดเวลาในการสอนในแต่ละขั้นตอนให้เหมาะสม 1.4 ผู้สอนควรดูเวลา ตรวจสอบและช่วยเหลือในการใช้กลวิธีการสอนแบบ PQ4R 1.5 ผู้สอนควรมีการเสริมแรงให้กับนักเรียนและสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนเพื่อเอื้อต่อการเรียนรู้ 2. ข้อเสนอแนะเพื่อการทำวิจัยครั้งต่อไป 2.1 ควรนำเอากลวิธีการสอนแบบ PQ4R ไปทดลองกับนักเรียนในระดับอื่น ๆ และกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ 2.2 ควรมีการวิจัยเพื่อศึกษาตัวแปรอื่น ๆ ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากกลวิธีการสอนแบบ PQ4R เช่น ทักษะการพูด การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ความพึงพอใจและเจตคติของนักเรียน เป็นต้น