Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แผนที่ความคิดสำหรับนักเรียนชั้นมัธมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพ 75/75 2)เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แผนที่ความคิด 3)ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แผนที่ความคิดของนักเรียนชั้นมัธมศึกษาปีที่ 4 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธมศึกษาปีที่ 4ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แผนที่ความคิด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธมศึกษาปีที่ 4/5 โรงเรียนนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 จำนวน 45 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แผนที่ความคิด แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบย่อยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แผนที่ความคิดซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scales)สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ โดยใช้ค่าE.I. การทดสอบค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่า t (Dependent Samples t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1.แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แผนที่ความคิดสำหรับนักเรียนชั้นมัธมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 82.52/79.89 2.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนด้วยแบบฝึกหัดทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แผนที่ความคิดสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.นักเรียนชั้นมัธมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยแบบฝึกหัดทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แผนที่ความคิดมีพัฒนาการสูงขึ้นร้อยละ 73 4.นักเรียนชั้นมัธมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยแบบฝึกหัดทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แผนที่ความคิดมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากขึ้นไป